วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”

แนวรับ 1,350 / 1,346 แนวต้าน 1,370 / 1,372

คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศเริ่มเห็นสัญญาณการพักฐาน หลังปรับตัวขึ้นรับรู้โอกาสในการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ของ FED ไปบ้างแล้วในระยะดับหนึ่งขณะที่เราคาดตลาดจะรอติดตามการรายงานตัวเลข ISM Manufacturing และ Nonfarm Payroll เพื่อรอประเมินสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ส่งผลให้ตลาดเข้าสู่โหมด Risk-Off อีกทั้งราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดใหม่คาดจะกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดได้

Our View? “อ่อนแอก็แพ้ไป”

คาดตลาดวันนี้ Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,350 / 1,346 และแนวต้านที่บริเวณ 1,370 / 1,372 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US-Bond Yield) และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (Dollar Index) ฟื้นตัวขึ้นตามที่เราคาดการณ์ไว้ คาดจะเป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง หลังรับรู้ประเด็นแนวโน้มในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงเดือน ก.ย. ไปค่อนข้างมากแล้ว อีกทั้งเรายังคงมุมมองตลาดจะเริ่มระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐมากขึ้นในช่วงการดีเบตระหว่างอดีตปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ในวันที่ 10 ก.ย. นี้ อีกทั้งเรามองตลาดจะรอติดตามการรายงานตัวเลขดัชนผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือน ส.ค. โดย ISM (ISM Manufacturing) คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ 47.5 แม้คาดจะดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50.0 สะท้อนภาคการผลิตสหรัฐยังหดตัวอยู่ รวมทั้งคาดจะรอดูการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payroll)เดือน ส.ค. ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ คาดจะออกมา 1.65 แสนตำแหน่งเพื่อประเมินความแข็งแรงของตลาดแรงงานสหรัฐ เรามองอาจส่งผลให้ตลาดระมัดระวังการลงทุนในระยะสั้นได้ (Risk-Off)

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้น-กลาง ปิดที่ระดับ 70.34 ดอลลาร์/บาร์เรล -3.21 ดอลลาร์ (-4.36%) ได้รับแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอาจชะลอตัวลงเร็วกว่าที่ตลาดคาด ตามตัวเลขแรงงานสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาอ่อนแอ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ส่งสัญญาณจะจัดใหม่มีการเจรจาระหว่างรัฐบาลลิเบียตะวันออกและตะวันตก คาดอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุยและอาจส่งผลให้ลิเบียกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ในระยะถัดไป อย่างไรก็ตามเราคาดยังต้องใช้เวลาอีกระยะ อีกทั้งเรายังมองประเด็นแนวโน้ม OPEC+ จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. และทยอยปรับลดมาตรการลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจลง เป็นการเพิ่มอุปทานน้ำมันเข้าสู่ตลาดกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรามองเมื่อวานนี้ตลาดปรับตัวขึ้นได้โดดเด่นจากประเด็นความคืบหน้าของการจัดตั้ง ครม. ของรัฐบาล ซึ่งคาดจะส่งผลบวกต่อความรวดเร็วในการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และการจัดตั้งกองทุนวายุภักษ์ อาจเห็นเร็วที่สุดภายในเดือน ก.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองตลาดในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว

อีกทั้งเรายังคงแนะนำติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ-ภาคกลางตอนบนของประเทศไทยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยหากยังไม่สามารถคลี่คลายได้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อ GDP ของไทยรวมทั้ง EPS ของตลาดหุ้นไทยได้ อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลดอาทิ (HMPRO, GLOBAL, DOHOME, DCC และ DRT) รวมทั้งหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับการ อุปโภคบริโภคและการบริจาค (CPALL และ CPAXT)

สำหรับการออกมาตรการกำกับดูแลของ ตลท. เพิ่มเติม 3 มาตรการคือ 1.) Auction เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับหุ้นที่ติด Cash Balance Lv.2 ขึ้นไป 2.) Dynamic Price Band ที่ 10% ควบคุมและลดความผันผวนของราคาซื้อขายหลักทรัพย์ในระหว่างวัน 3.) Minimum Resting Time 250 มิลิวินาทีป้องกันการใส่-ถอนคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีความถี่มาก เรามองเป็นปัจจัยที่จะลดความผันผวนโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มขนาดเล็ก (Small Cap) อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางลงเพิ่มเติมและคาดอาจเห็นแรงขายลดความเสี่ยงหุ้นในกลุ่ม Small Cap. ออกมาได้ก่อนในระยะแรกของการบังคับใช้

ธิมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “PTTGC”

  • ในเชิงกลยุทธ์เรามองราคาหุ้น PTTGC ในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงรับรู้ความกังวลการตั้งสำรองด้อยค่าของ สินทรัพย์ราว 2 หมื่นล้านบาทในช่วง 2H’67 ไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง โดยราคาของ PTTGC ล่าสุดเทรดอยู่ที่ระดับเพียง Fwd PB 0.4 เท่าต่ำกว่า Book Value ค่อนข้างมากเทียบเท่า กับช่วงของ Covid-19 เรามองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อเล่นรีบาวด์
  • ทางเทคนิค ภาพรายวันราคาวกตัวขึ้นยกจุดต่ำสุดใหม่ในภาพระยะสั้นสูงขึ้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD, RSI และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
  • แนะนำ “เล่นรีบาวด์”
  • แนวรับ 25.50 / 25.00 Target 27.50 / 29.00 Stop <24.50

- Advertisement -