คาด SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,395 – 1,420 จุด ระวังแรงขายท้ายตลาดก่อนหยุดสุดสัปดาห์

สรุปภาพรวมตลาด: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี DJIA และ S&P500 ปิดในแดนลบในขณะที่ Nasdaq ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยผันผวนหลังนักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนส.ค. ในคืนนี้ (6 ก.ย.) ซึ่งตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค. สู่ระดับ 1.64 แสนตำแหน่ง สำหรับสินทรัพย์อื่นๆ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลง แม้ล่าสุด OPEC+ จะตัดสินใจเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไป 2 เดือน หลังราคาน้ำมันร่วงลง
ในฝั่งของตลาดหุ้นจีน ล่าสุดมีรายงานว่าจีนเตรียมพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยลง 0.8% เพื่อช่วยลดภาระหนี้ในการกู้ยืมให้กับครัวเรือน ซึ่งปัจจุบันมียอดสินเชื่อค้างชำระอยู่ที่ 5.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงบรรเทาผลกระทบในฝั่งธนาคารจากกำไรที่ลดลง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การดำเนินงานจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยตลาดคาดว่าการปรับลดครั้งแรกจะเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
  • SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,395 – 1,420 จุด ระวังแรงขายท้ายตลาดก่อนหยุดสุดสัปดาห์และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
ตลาดได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก
1) ความชัดเจนของกองทุนวายุภักษ์ โดยกระทรวงการคลังคาดว่าจะมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในตลาดราว 1.5 แสนล้านบาท และ สามารถเริ่มลงทุนในตลาดได้ประมาณเดือนต.ค. เราประเมินว่าขนาดของกองทุนวายุภักษ์และกองทุน ESG รวมกัน จะมีผลกระทบต่อตลาดผลักดันให้ดัชนี SET พุ่งขึ้นประมาณ 5% หรือประมาณ 70 จุดใน 4Q24F
2) การปรับน้ำหนักลงทุนในตลาดโลกจาก Growth stock มาเป็น Value stock ซึ่งธุรกิจไทยส่วนใหญ่เป็นหุ้นประเภทนี้ และ
3) แรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบัน และ ต่างชาติที่ซื้อสุทธิหุ้นไทย 7.4 พันล้าน มากสุดในรอบ 1 ปี 9 เดือน เมื่อวานนี้ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยปิดที่ระดับ 33.65 บาทต่อดอลลาร์
ฝั่งการเมือง ล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 68 ซึ่งมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.7 ล้านล้านบาท และ จะมีการส่งร่างพ.ร.บ. นี้ไปยังวุฒิสภา เพื่อพิจารณาต่อไปในวันที่ 9-10 ก.ย และ สามารถเริ่มใช้ได้ใน ต.ค. 2025F
  • หุ้นแนะนำ
    • CRC : เราเชื่อว่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จะช่วยลดต้นทุนในการนำเข้าสินค้าแบรนด์เนมและแฟชั่นจากต่างประเทศ ส่งผลให้ CRC สามารถปรับลดราคาขายสินค้า และ มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น นอกจากนี้ ยอดขายของ CRC โดยเฉพาะที่ตั้งในสถานที่ท่องเที่ยวจะมีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้น (Take profit : 32.50 / Stop loss : 30.50)
    • LH : เราเชื่อว่าเงินเฟ้อไทยที่ยังคงเติบโตจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยเราคาดว่าธปท. น่าจะตรึงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50% ในปี 2024 และปรับลดใน 1H25 มากไปกว่านั่นเราคาดว่า LH จะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์เนื่องจากมีอัตราผลตอบแทนที่สูง (Take profit : 6.10 / Stop loss : 5.55)

Daily Global Market 

In News:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Dow Jones ปิดลบ 219.22 จุด การเผยข้อมูลตลาดแรงงานที่อ่อนแอและดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
  • ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐประจำสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลง 5 k. ราย สู่ระดับ 227,000 ราย และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 230 k. รายของนักวิเคราะห์ ส่วนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องลดลง 22 k. ราย สู่ระดับ 1.838 m. ราย และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.870 m. ราย
  • การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนสิงหาคมปรับบวก 99 k. ตำแหน่งต่ำสุดนับแต่มกราคม 2021 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์นักวิเคราะห์ที่ 140 k. หลังเพิ่มขึ้น 111 k. ตำแหน่งเมื่อเดือนกรกฎาคม
  • ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐจาก S&P Global ประจำเดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 สูงสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2022 จากระดับเดือนกรกฎาคมที่ 55.0 จากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ มากไปกว่านั้น ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจขยับตัวดีขึ้น จากคาดการณ์เกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของ FED
  • คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจำนวนมาก คำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Reuters คาดว่า ดัชนีจะร่วงลง 1.5% หากไม่นับรวมคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ เช่น รถไฟ เรือ และเครื่องบิน คำสั่งซื้อใหม่ในเดือนกรกฎาคมลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
  • รายได้เงินสดเฉลี่ยต่อเดือนของญี่ปุ่นประจำกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 3.6% จากปีที่แล้ว น้อยกว่าการเพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนมิถุนายน ค่าจ้างที่แท้จริงโตขึ้น 0.4% YoY ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังขยับขึ้นเดือนมิถุนายน 1.1% การเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งทำให้ BOJ มีเหตุผลมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อหุ้น ทั้งนี้ คณะกรรมการของ BOJ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยควรเพิ่มขึ้นต่อไปหากบริษัทต่างๆ ยังคงเพิ่มการใช้จ่ายและค่าจ้าง
  • ดัชนีโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซจีนประจำเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 114.2 จุด แสดงให้เห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านอุปสงค์และอุปทาน Olympic Fever กระตุ้นความต้องการโลจิสติกส์อีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้ดัชนีปริมาณธุรกิจรวมพุ่งสูงถึง 130.5 จุด สินค้าอีคอมเมิร์ซยอดนิยมในเดือนสิงหาคม ได้แก่ อุปกรณ์ว่ายน้ำ จักรยาน และอุปกรณ์กีฬาที่ใช้ลูกบอล รวมถึงยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเทศกาลเปิดเทอมที่กำลังจะมาถึง
  • Morgan Stanley คาดว่า อัตราการจำนองในฮ่องกงคาดว่า จะลดลงสู่ระดับ 3.25% ในปีหน้า และราคาที่อยู่อาศัยในฮ่องกงคาดว่า จะดีดตัวขึ้น 5%
  • อัตราเงินเฟ้อรายปีของฟิลิปปินส์ชะลอตัวแตะระดับต่ำสุดรอบ 7 เดือนในเดือนสิงหาคม จากราคาอาหารและค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางมีช่องทางในการผ่อนคลายอัตราดอกเบี้ยต่อไป ดัชนี CPI ประจำเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 3.3% จากปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 4.4% ของเดือนก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ 3.6% ในช่วง 8 เดือนแรกของปี ซึ่งอยู่ภายในเป้าหมาย 2% – 4% ของธนาคารกลาง
  • ทางการออสเตรเลียเผยว่า ในเดือนกรกฎาคม การส่งออกของประเทศขยับขึ้น 0.7% MoM ขณะที่การนำเข้าร่วงลง 0.8% MoM

Stock Movement:

  • หุ้น United States Steel Corp. (X NYSE) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.01% นาย Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมขัดขวางข้อเสนอเทคโอเวอร์มูลค่า USD 14.9 bn. โดย Nippon Steel ของญี่ปุ่น เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคงของชาติ
  • หุ้น Frontier Communications Parent Inc. (FYBR ND) ร่วงลง 9.51% หลังจากที่ Verizon Communication Inc. (VZ NYSE, -0.41%) กล่าวว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะซื้อบริษัท ซึ่งถือเป็นข้อตกลงที่จะช่วยเพิ่มเครือข่ายไฟเบอร์ของยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมได้
  • หุ้น C3. ai Inc. (AI NYSE) ดิ่งลง 8.21% หลังจากบริษัท พลาดประมาณการรายได้จากการสมัครสมาชิกรายไตรมาส องค์กรต่างๆ ใช้จ่ายอย่างเข้มงวดท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
  • หุ้น Tesla Inc. (TSLA ND) ปรับตัวบวก 4.90% ผู้ผลิต EV จะเปิดตัวความช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงในยุโรปและจีนช่วง 1Q2025 และวางแผนที่จะสร้าง Model Y รุ่น 6 ที่นั่งในจีนตั้งแต่ปลายปี 2025
  • หุ้น JetBlue Airways Corporation (JBLU ND) เพิ่มขึ้น 7.16% หลังจากที่สายการบินปรับเพิ่มการคาดการณ์รายได้ 3Q เนื่องจากความต้องการการเดินทางที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อน
  • หุ้น Johnson & Johnson (JNJ NYSE) ปิดลบ 1.42% บริษัทวางแผนที่จะจ่ายเงินเพิ่มเติม USD 1.1 bn. เพื่อแก้ไขการดำเนินการทางกฎหมายหลายหมื่นคดีที่กล่าวหาว่าแป้งเด็กและผลิตภัณฑ์แป้งอื่นๆ ของบริษัทก่อให้เกิดมะเร็ง การปรับนี้จะทำให้มีมูลค่าใช้จ่ายรวม USD 9 bn. ช่วงเวลา 25 ปี
  • หุ้น Volvo AB (VOLV-B STO) ร่วงลง 1.34% หลังจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดนลดเป้าหมายความสามารถการทำกำไรที่ปรับแล้วสำหรับปี 2026 และกล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะเติบโตต่อไปเหนือตลาดรถยนต์พรีเมียมจนถึงปีดังกล่าว
  • หุ้น Burberry Group Plc. (BRBY LON) ขยับบวก 2.28% บริษัทแฟชั่นหรูของอังกฤษออกจากดัชนี FTSE 100 ไปยัง FTSE 250 ในการปรับสมดุลรายไตรมาสเดือนกันยายน เนื่องจากยอดขายที่ลดลงและการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการจำนวนมากเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้ค้าปลีก
  • หุ้น Associated British Foods Plc. (ABF LON) ร่วงลง 5.01% แม้บริษัทมีความสามารถในการทำกำไรและการสร้างเงินสดที่ดีขึ้น ยอดขายในสหราชอาณาจักรของ Primark ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่การเติบโตในตลาดอื่นๆ และร้านค้าใหม่ๆ ช่วยหนุนธุรกิจ รายได้ของ Primark คาดว่า จะเติบโต 4% ช่วง 2H2024
  • หุ้น SenseTime Group Inc. (0020 HK) บวก 1.80% บริษัทเผยรายได้ช่วง 1H2024 เพิ่มขึ้น 21% YoY สาเหตุหลักมาจากการเติบโตอย่างมั่นคงของธุรกิจ AI บริษัทขาดทุนสุทธิที่ปรับปรุงแล้วลดลง 3% YoY จากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
  • หุ้น Tencent Holdings Ltd. (0700 HK) ขยับขึ้น 0.16% COO ได้ประกาศเปิดตัวโมเดล Tencent Hunyuan Turbo ใหม่ โดยรุ่นนี้ราคาถูกกว่า Hunyuan Pro ถึง 50% พร้อมประสิทธิภาพการอนุมานที่ดีขึ้น 100% และความเร็วในการถอดรหัสเร็วขึ้น 20%
  • หุ้น Wuxi Biologics Inc. (2269 HK) ปรับตัวลง 0.18% Guotai Junan เผยรายงานว่า โครงการใหม่ของ WuXi Biologics กำลังเติบโต และธุรกิจที่ไม่ใช่โควิด-19 ของบริษัทยังคงมีเสถียรภาพ จึงรักษาคาดการณ์ทั้งปี 2024 ไม่เปลี่ยนแปลง
  • หุ้น Coronado Global Resources Inc. (CRN ASX) ร่วงลงอย่างมาก 15.98% หลังจากที่บริษัทกล่าวว่า ฝนตกหนักที่เหมืองถ่านหินใน Bowen Basin ของรัฐควีนส์แลนด์ตอนกลางส่งผลกระทบต่อการผลิตในปีงบประมาณ 2024
  • หุ้น NextDC Ltd. (NXT ASX) พุ่งขึ้น 8.40% หลังจากที่บริษัทจัดการบริการไอทีเปิดตัวศูนย์ข้อมูลระดับ 4 แห่งแรกใน Adelaide
Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard
- Advertisement -