เป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนาน / 1,395-1,425

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • SET ยังไปต่อได้ : โดยมองแรงหนุนจากปัจจัยภายในยังเป็นแรงหลัก นำโดย 1) พัฒนาการของการเดินหน้าผลักดันนโยบายภาครัฐ หลังนายกฯเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเร็วขึ้นจากเดิมวันที่ 16-17 ก.ย. เป็น 12-13 ก.ย. รองนายกให้ข้อมูลว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เดิมคิดว่าจะล่าช้า เนื่องจากวันแคลงนโยบายที่กำหนดครั้งแรกอาจทำให้พิจารณาโครงการไม่ทัน แต่เมื่อมีการปรับวันแถลงเร็วขึ้น คาดว่าจะสามารถเริ่มโอนเงินให้ประชาชนได้ทันภายในเดือน ก.ย. มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม ค้าปลีก ท่องเที่ยว ธนาคาร และการเงิน 2) แรงหนุนกองทุนวายุภักษ์หลังปลัดกระทรวงการคลังเผยกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ประเภท ก. วงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาท จะเปิดให้นักลงทุนที่เป็นประชาชนรายย่อยจองซื้อในช่วงวันที่ 16-20 ก.ย. 67 แล้ว จึงประกาศผลการจองซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ 23 ก.ย. สุดท้ายหน่วยลงทุนดังกล่าวจะเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในวันที่ 10 ต.ค.67 3) Volume ซื้อขายวานนี้แตะระดับ 81,764.85 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 66 โดยแรงซื้อหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติที่ซื้อสุทธิกว่า 7,484.60 ล้านบาท ช่วยสร้าง Sentiment บวกให้หุ้นขนาดใหญ่ที่มักเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ ด้านปัจจัยกดดันมาจากภายนอกหลังข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐออกมาสวนทางกันตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจาก ADP เดือน ส.ค.67 ออกมาเพิ่มขึ้น 9.9 หมื่นตำแหน่ง เพิ่มน้อยกว่าที่คาดที่ 1.44 แสนตำแหน่ง สวนทางกับตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ที่ออกมาที่ 2.27 แสนราย น้อยกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ตลาดยังไม่เพิ่มน้ำหนักลงทุน และรอตัวเลขแรงงานสหรัฐคืนนี้ โดยจะมีตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมง การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน เดือน ส.ค. หากบ่งชี้การชะลอตัวภาคแรงงานตลาดอาจมองว่าเฟดจะเร่งลดดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนก.ย. สัปดาห์หน้าติดตาม การแถลงนโยบายรัฐบาลไทย เงินเฟ้อสหรัฐ การดีเบตระหว่าง Harris-Trump การประชุม ECB และ ส่งออกจีน
  • กลยุทธ์การลงทุน : 1) งบและนโยบายภาครัฐฯ: CK, STEC, BJC, CPALL, CPAXT, CRC, HMPRO, KBANK, KTB, KTC, SAWAD, AOT, AAV 2) วายุภักษ์: ADVANC, CPF, CENTEL, BCP, AMATA, THCOM และ 3) Selective : GPSC, GUNKUL, TASCO, SCGP

ปัจจัยบวก

  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและผ่านแดน เดือน ก.ค. 67 มีมูลค่าการค้ารวม 158,101 ล้านบาท ขยายตัว 21.7%y-y ภาพรวม 7 เดือนปี 67 มีมูลค่าการค้ารวม 1,070,384 ล้านบาท (+5.9%y-y)
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้การทำประชาพิจารณ์ร่างพ.ร.บ. เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีผู้ที่เห็นชอบสูงถึง 80% ขั้นตอนต่อไป จะมีการทำประชาพิจารณ์
  • รองนายกเผยพร้อมพิจารณามาตรการภาษี ช่วยเอกชนเจอผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บา
  • ธนาคารกลางจีนระบุว่ายังมีพื้นที่สำหรับการปรับลดอัตราส่วนเงินสำรองที่ธนาคารต้องดำรง หรือ RRR จากระดับปัจจุบันที่ 7% ขณะที่ธนาคารกลางจะยังคงดำเนินนโยบายเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ปัจจัยลบ

  • กระทรวงพาณิชย์จีนเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกา ยกเลิกภาษีน้ำเข้า สินค้าจากจีนทั้งหมดทันที โดยจีนได้ยื่นข้อร้องเรียนอย่างจริงจังต่อสหรัฐฯ เกี่ยวกับเรื่องภาษีนี้ถึง 301 ครั้ง
  • Milieu Insight เผยคนอาเซียนส่วนใหญ่เลือกออมเงินมากกว่าลงทุน เนื่องจากมีความรู้ทางการเงินต่ำ ประกอบกับมีรายได้น้อย จึงมีโอกาสเข้าถึงการลงทุนที่จำกัด ทำให้มีจำนวนประชากรที่มีอิสระทางการเงินน้อย
  • ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผย 16 ชุมชนนอกคันกั้นน้ำในกทม.มีโอกาสเผชิญมวลน้ำจากภาคเหนือ มีโอกาสกระทบประชาชนกว่าร้อยหลังคาเรือน
  • โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ข้อเสนอการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลของแฮร์ริส อาจจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทในดัชนี S&P500 ลดลงราว 5% จากผลกำไรในปัจจุบัน

PICKS OF THE DAY

CK BUY

  • เป้าหมาย 20.50 / 21.00 แนวรับ 19.00
  • เข้าสู่ช่วง high season: 3Q67 เป็นช่วง high season ทั้งจำนวนวันหยุดที่น้อย เป็นช่วงเปิดการศึกษา ทำให้เป็นไตรมาสที่จำนวนผู้โดยสารสูงสุดในปี และเป็นช่วงฤดูน้ำมาก คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ CK ได้ประโยชน์จาก BEM และ CKP
  • ให้น้ำหนักไปที่การเร่งผลักดันโครงการรัฐฯ: เรื่องการปรับค่าแรง 400 บาท ในบางพื้นที่และบางอาชีพใน 1 ต.ค. นี้ อาจเป็นปัจจัยลบต่อกลุ่มฯ แต่ด้วยตลาดหุ้นที่กลับมา bullish ยังคงให้น้ำหนักไปที่การเร่งผลักดันโครงการภาครัฐฯให้ทันงบประมาณเบิกจ่ายปี 67 มากกว่า ซึ่งคมนาคมยังมีอีกกว่า 14 โครงการ 7.98 แสนลบ. หลักๆเป็นงานรถไฟทางคู่ 6 เส้นทาง และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 แนะนำเก็งกำไรประชุม ครม. ในเดือนนี้

KBANK BUY

  • เป้าหมาย 150.00 / 155.00 แนวรับ 142.00 / 145.00
  • ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ: การผ่านงบประมาณของรัฐบาล และโครงการลงทุนต่าง ๆ น่าจะทำให้ความต้องการสินเชื่อของภาครัฐ รวมไปถึงภาคธุรกิจขนาดใหญ่มีมากขึ้น และ KBANK ในฐานะที่เป็นธนาคารขนาดใหญ่น่าจะได้ประโยชน์
  • เจ้าตลาดสินเชื่อ SME: KBANK เป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านสินเชื่อ SME มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มธนาคารที่ 29.6% ของสินเชื่อ SME ทั้งหมด ทำให้มองว่าจะได้ประโยชน์จากมาตรการซอฟท์โลน โดย KBANK ได้เตรียมที่จะปล่อยกู้ถึง 2 หมื่นลบ. สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารจากวงเงินซอฟท์โลนทั้งหมด 1 แสนลบ.

 

- Advertisement -