บล.กรุงศรีฯ:

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index เพิ่มขึ้น 23.36 จุด (+1.66%) ปิดที่ระดับ 1,428 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1.07 แสนล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 355 บริษัท, หุ้นปรับลง 183 บริษัท) นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้น Big Cap ดักทางเม็ดเงินลงทุนจากกองทุนวายุภักษ์ 1 ซึ่งกำลังจะเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันในช่วงวันที่ 16 -20 ก.ย. นี้ Sector ที่ปรับขึ้นเด่น คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, GULF), กลุ่มธนาคาร (SCB, KBANK, BBL) และกลุ่มค้าปลีก (CRC, HMPRO, CPALL) 

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

  • BBL (+5.61%), KBANK (+4.10%), SCB (+5.58%) เป็นหุ้น Big Cap รองรับ Fund flow ไหลเข้า ผสานกับเช้าวันนี้เราเลือก BBL และ KBANK เป็น Top Pick คาดเป็นเป้าในการเข้าซื้อจากกองทุนวายุภักษ์ 1 เนื่องจากเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลและให้ Dividend yield มากกว่า 5% มีน้ำหนักใน SET ESG สูง แต่ยังมีสัดส่วนในกองทุนวายุภักษ์ต่ำทำให้มี room ที่กองทุนวายุภักษ์จะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนได้มากขึ้น
  • AMATA (+5.65%) นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเหมาะสม 29 บาท หลังวานนี้ AMATA ปรับเป้ายอดขายที่ดินปีนี้เป็น 2,500 – 2,600 ไร่ จากความต้องการที่แข็งแกร่งของผู้ผลิตอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์และชิ้นส่วนรถยนต์ทั้งในไทยและเวียดนาม นอกจากนี้ยังเตรียมปรับขึ้นราคาขายในปีนี้ขึ้นอีก 5-10% 
  • BCPG (+5.22%) เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร พร้อมกับปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 7.3 จาก 5.90 บาท จากการรวมมูลค่าของโรงไฟฟ้าใหม่ 3 โครงการ หลังจากที่มีความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการค่อนข้างเร็วและเตรียมเปิด COD ได้ใน 2H25 
  • DELTA (-5.61%), HANA (-3.8%), KCE(-1.32%) ปรับฐานในทิศทางเดียวกับหุ้น Tech ในต่างประเทศ อีกทั้งยังมีปัจจัยลบจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท (ทุกๆ 1 บาทที่ค่าเงินบาทแข็งค่าคาดกระทบกำไรสุทธิของ KCE ประมาณ 5% และ HANA ประมาณ 4%
  • CPF (-2%), GFPT(-3.25%), ITC (-1.98%) เป็นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท ประกอบกับ CPF มีปัจจัยลบเฉพาะตัวจากข่าวกลุ่มชาวประมง จ.สมุทรสาคร ยื่นฟ้องให้ CPF ชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีของปลาหมอคางดำเป็นมูลค่า 2.48 พันล้านบาท 
- Advertisement -