คาด SET จะแกว่งผันผวนในกรอบแคบบริเวณ 1,420-1,440 จุด หลังตลาดตอบรับปัจจัยบวกในประเทศทั้งเรื่องกองทุนวายุภักษ์และความชัดเจนทางการเมือง
ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนี DJIA ปิดลบที่ 0.23% ในขณะที่ S&p500 และ Nasdaq ปิดบวกที่ 0.45% และ 0.84% ตามลำดับ โดยตลาดได้รับแรงกดดันจาก 1) หุ้นกลุ่มธนาคาร หลังตลาดกังวลต่อรายได้ของ Goldman Sachs และ JPMorgan Chase ว่าอาจลดลง และ 2) หุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมัน WTI ที่ปรับตัวลดลงกว่า 4% หลัง OPEC+ ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันสำหรับปีนี้และปีหน้าลง 80,000 บาร์เรล/วัน และ 40,000 บาร์เรล/วัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงสนับสนุนจากหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
- สำหรับประเด็นสำคัญในสหรัฐวันนี้ ติดตาม
1) การประกาศตัวเลข CPI เดือนส.ค. ที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% yoy (vs. 2.9% เดือนก.ค.) ในขณะที่ Core CPI ตลาดคาดว่าจะขยายตัวเท่าเดิมที่ 3.2% yoy และ
2) การดีเบตระหว่าง คามาลา แฮร์ริส และ โดนัลด์ ทรัมป์ ประมาณ 8.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากที่ผ่านมา ทั้งคู่มีการนำเสนอวิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจที่ขัดแย้งกัน โดยประเด็นหลัก ได้แก่
นางแฮร์ริส (พรรคเดโมแครต แนวคิดด้านเสรีนิยม) : สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก โดยเสนอให้เพิ่มการหักลดหย่อนภาษี และ ปรับขึ้นอัตราภาษีกำไรจากการขายทรัพย์สิน เพื่อกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน / ลดภาษีเงินได้ครอบครัว และ เพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคล / ให้ความช่วยเหลือและพัฒนาชุมชนผู้อพยพ / สนับสนุนการทำแท้งเสรีในทุกรัฐ / สนับสนุนแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน / สนับสนุนกฎหมายกำกับดูแล พัฒนาการใช้ AI
- นายทรัมป์ (พรรครีพับลิกัน แนวคิดด้านอนุรักษ์นิยม) : เรียกร้องให้จัดตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อขจัดการทุจริต และ เพิ่มภาษีนำเข้า รวมถึงการลดอัตราภาษีนิติบุคคล / เคร่งครัดต่อการจัดการต่อผู้อพยพผิดกฎหมาย อาทิ ส่งตัวกลับ ไม่ให้สัญชาติลูกที่เกิดมา / สนับสนุนให้ทำแท้งเฉพาะกรณีข่มขืน / ยกเลิกแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน / เปิดให้พัฒนาและใช้ AI ได้อย่างเสรี
- จากผลสำรวจของ CBS News/YouGov ระบุว่าทั้ง 2 คน มีคะแนนนิยมสูสีกันใน 3 รัฐสวิงสเตท โดยนางแฮร์ริสนำอยู่ 2% ที่รัฐวิสคอนซิน และ 1% ที่รัฐมิชิแกน ในขณะที่รัฐเพนซิลเวเนีย คะแนนของทั้งคู่เท่ากัน
- SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนในกรอบแคบบริเวณ 1,420-1,440 จุด หลังตลาดตอบรับปัจจัยบวกในประเทศทั้งเรื่องกองทุนวายุภักษ์และความชัดเจนทางการเมืองไปแล้ว ดังนั้น ตลาดยังรอปัจจัยใหม่เข้ามา ติดตามการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของรัฐบาลนายกฯ แพทองธาร วันพรุ่งนี้ (12-13 ก.ย.) โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ปรับโครงสร้างหนี้ และการสานต่อนโยบายจากรัฐบาลเศรษฐา
- สำหรับโครงการหลักอย่างดิจิทัลวอลเล็ต นายภูมิธรรม ระบุ รอครม. พิจารณา วันที่ 17 ก.ย. นี้เรื่องความแน่ชัดของวันจ่ายเงิน
หุ้นแนะนำ
- SAWAD : เรามองเชิงบวกต่อบริษัทจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นใน 2Q24 SAWAD มีอัตราการสำรองหนี้สูญและอัตราการเกิด NPL ใหม่ที่ค่อนข้างต่ำใน 2Q24 หลังบริษัทเดินหน้าเคลียร์งบดุลตั้งแต่ 2Q23 (Take profit : 42.25 / Stop loss : 39.50)
- CRC : CRC มีรายได้จากการขายเติบโต 5.1% yoy ใน 2Q24 จากการขยายสาขา เราเชื่อว่า GPM ที่ทรงตัวและการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของบริษัท นอกจากนี้ เราคาดว่า CRC จะมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งใน 2H24 (Take profit : 32.50 / Stop loss : 30.25)
Daily Global Market
In News:
- ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนี Dow Jones ปิดร่วงลง 92.63 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดบวก นักลงทุนขายลดความเสี่ยงก่อนที่ข้อมูลเงินเฟ้อจะเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจของ FED ประจำเดือนนี้
- ดัชนี CPI จะเผยในคืนวันนี้ ขณะที่ดัชนี PPI จะเผยในวันพฤหัสบดี
- นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไปประจำเดือนสิงหาคมจะปรับตัวบวก 0.2% MoM และขยับขึ้น 2.9% YoY ส่วนดัชนี Core CPI ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานคาดว่า จะขยับขึ้น 0.2% MoM และขยับขึ้น 3.2% YoY
- ผลสำรวจแนวโน้มการจ้างงานของ ManpowerGroup แสดงให้เห็นว่า แนวโน้มการจ้างงานทั่วโลกของบริษัทต่างๆ คาดว่า จะทรงตัวในช่วง 4Q2024 แม้ว่ามุมมองสำหรับไตรมาสหน้าจะอ่อนแอกว่าไตรมาสสุดท้ายของปี 2023 ก็ตาม จากผลสำรวจของนายจ้างกว่า 40 k. รายใน 42 ประเทศเผยว่า แนวโน้มการจ้างงานทั่วโลกสำหรับไตรมาส 4Q2024 อยู่ที่ 25% สูงกว่า 3Q ที่ 22% เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว แนวโน้มการจ้างงานสุทธิลดลง 5% ขณะที่มากกว่า 40% ของนายจ้างที่สำรวจคาดว่าจะเพิ่มการจ้างงาน และ 16% คาดว่า จะลดการจ้างงานลง
- การว่างงานในสหราชอาณาจักรลดลงสู่ระดับ 4.1% ในเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2024 ขณะที่การเติบโตของรายได้พนักงานประจำต่อปีลดลงสู่ระดับ 5.1% นักวิเคราะห์จาก Quilter Cheviot กล่าวว่า การที่การเติบโตของค่าจ้างคงอยู่อาจทำให้ BOE ต้องพิจารณาเมื่อจะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจเชิงนโยบายในสัปดาห์หน้า
- อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีในเดือนสิงหาคม ทำให้ธนาคารกลางยุโรปสามารถลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้ได้ง่ายขึ้น อัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ที่ 2.0% ในเดือนสิงหาคม ต่ำสุดนับแต่มิถุนายน 2021 เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง ราคาผู้บริโภคของเยอรมนีเมื่อเทียบเคียงกับประเทศในสหภาพยุโรปอื่นๆ เพิ่มขึ้น 2.6% YoY ในเดือนกรกฎาคม ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ได้ชะลอตัวลงเล็กน้อยสู่ระดับ 2.8% ในเดือนสิงหาคม จาก 2.9% ในเดือนก่อน
- ดุลการค้าของจีนขยายตัวเกินคาดในเดือนสิงหาคม จากอุตสาหกรรมการส่งออกของประเทศไม่รับแรงกดดันจากข้อจำกัดทางการค้าของสหรัฐ แต่การนำเข้าเติบโตช้ากว่าที่คาดไว้มากทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว ดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่เกินดุล USD 91.02 bn. สูงกว่าที่คาดไว้สำหรับการเกินดุล USD 82.10 bn. ทั้งนี้ การส่งออกขยายตัว 8.7% YoY ส่วนการนำเข้าปรับตัวขึ้น 0.5% YoY
- ภาวะทางธุรกิจออสเตรเลียตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนสิงหาคม โดยแนวโน้มการจ้างงานจะได้รับผลกระทบ ขณะที่มีข่าวหลากหลายเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง การสำรวจจากธนาคารแห่งชาติออสเตรเลีย (NAB) แสดงให้เห็นว่าดัชนีภาวะทางธุรกิจลดลง 3 จุด สู่ระดับ +3 ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2022 และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว ส่วนดัชนีการจ้างงานลดลงจาก +7 สู่ระดับ +1 หลังจากเพิ่มขึ้นช่วงสั้นๆ ในเดือนกรกฎาคม บ่งชี้ว่ายอดขายและความสามารถในการทำกำไรที่อ่อนแออาจส่งผลต่อความต้องการแรงงาน
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคชาวออสเตรเลียย่ำแย่ลงในช่วงต้นเดือนกันยายน ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสถาบัน Westpac-Melbourne Institute ลดลง 0.5% ในเดือนกันยายน หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก่อนหน้า ดัชนียังคงใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดท่ามกลางความเชื่อมั่นที่ตกต่ำเกือบสองปี
Stock Movement:
- หุ้น Apple Inc. (AAPL ND) ลดลง 0.36% หลังจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เผยการปรับปรุงล่าสุดของ iPhone ที่เสริมด้วย AI ขณะที่ศาลสูงสุดของสหภาพยุโรปตัดสินคดีกับบริษัทในคดีความยาวหลายปีเกี่ยวกับภาษีในไอร์แลนด์
- หุ้น Oracle Corp. (ORCL NYSE) เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 11.47% หลังบริษัทรายงานผล 1Q ทางการเงินที่ดีกว่าคาด ขับเคลื่อนโดยความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจคลาวด์ นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า ได้ลงนามในพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ Amazon Web Services ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึง Oracle Autonomous Database และ Oracle Exadata Database Service ภายใน AWS
- หุ้น Alphabet Inc. (GOOGL ND) ขยับบวก 0.31% แม้ว่าศาลสูงสุดของยุโรปยืนยันปรับ Google รวม EUR 2.42 bn. จากการใช้บริการเปรียบเทียบราคาของตัวเองเพื่อได้เปรียบที่ไม่เป็นธรรมเหนือคู่แข่งรายเล็กในยุโรป บทลงโทษนี้เป็นหนึ่งในสามบทลงโทษที่ EC เรียกเก็บจาก Google ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากละเมิดกฎการแข่งขันทางธุรกิจหลายครั้ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายรวม EUR 8.25 bn.
- หุ้น Rubrik Inc. (RBRK NYSE) ลดลง 1.50% ตามผลประกอบการ 2Q ซึ่งทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับประสิทธิภาพช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ
- หุ้น Viridian Therapeutics Inc. (VRDN ND) พุ่งขึ้นสูง 32.14% บริษัทประกาศว่า การรักษาการทดลองสำหรับผู้ป่วยโรคตาไทรอยด์ลดการอักเสบของตาอย่างมากในการทดลองระยะสุดท้าย
- หุ้น AstraZeneca Plc. (AZN LON) ปิดลบ 2.41% หลังผลการศึกษาเชิงลึกแสดงให้เห็นว่า ยาต้านมะเร็งปอดที่กำลังพัฒนาของบริษัทไม่ได้ช่วยยืดอายุการรอดชีวิตของผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคั
- หุ้น Amplifon SpA (AMP BIT) ร่วงลง 1.91% หลังจาก Apple Inc. ประกาศเปิดตัว Airpods รุ่นใหม่ที่สามารถใช้เป็นเครื่องช่วยฟังได้
- หุ้น Sunny Optical Technology Group Co., Ltd. (2382 HK) ปิดลบ 2.04% บริษัทเผยว่า การจัดส่งชุดเลนส์มือถือในเดือนกรกฎาคมแตะ 124 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 7.5% MoM และ 14.6% YoY สาเหตุหลักมาจากความต้องการที่อ่อนแอในตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทที่เพิ่มขึ้นในผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์
- หุ้น Xpeng Inc. (9868 HK) พุ่งขึ้น 2.01% บริษัทได้ปรับแผนการผลิตเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้แน่ใจว่ากำลังการผลิต คุณภาพ และประสิทธิภาพการจัดส่งของ MONA M03 ดีขึ้น พร้อมให้พันธมิตรซัพพลายเออร์ตอบสนองเชิงบวกและบรรลุผลอย่างรวดเร็ว
- หุ้น Tencent Holdings Ltd. (0700 HK) ขยับตัวลง 0.70% Tencent Cloud และ People AI เปิดตัวโซลูชันร่วมกันและลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยมีเป้าหมายที่จะกระชับความร่วมมือให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน ข้อตกลงดังกล่าว Tencent Cloud และ People AI จะมีส่วนร่วมในความร่วมมือในการแบ่งปันข่าวกรองอุตสาหกรรมแบบหลายโดเมน เพื่อบรรลุการบูรณาการผลิตภัณฑ์และการอัปเกรดอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ เช่น ความปลอดภัยของเนื้อหา การรับรู้สถานการณ์ การบริการลูกค้าอัจฉริยะ และการคุ้มครองลิขสิทธิ์
Sources: aastocks, briefing, businesstimes, cnbc, investing, japantoday, nasdaq, ryt9, thestandard