มิกิน มีใช้ มีโอกาสฟื้นตัว / 1,410-1,435

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

SET คาดกลับมาฟื้นตัว : มองในวันนี้มีปัจจัยบวกทั้งจากภายนอก และยังมีแรงหนุนจากการแถลงนโยบายจะช่วยผลักดัน SET กลับมา ฟื้นตัวปัจจัยบวกนำโดย 1) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นและเห็นการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐหลัง CEO ของ Nvidia ชี้ อุปสงค์ต่อสินค้าของบริษัทยังดี ทั้งในด้านส่วนประกอบ เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน และ Software คาดสร้าง Sentiment บวกให้หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ไทยด้วย 2) การแถลงนโยบายของรัฐบาลมองตลาดจับตานโยบายเร่งด่วน 10 ข้อ โดยมีโครงการด่วนที่น่าสนใจจะเข้ามาช่วยผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ได้แก่ โครงการเงินดิจิทัล โครงการปรับโครงสร้างหนี้และเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs โครงการลดราคาพลังงาน+สาธารณูปโภค โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว โครงการส่งเสริมศักยภาพ และเพิ่มสวัสดิการสังคมจะเข้ามาช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ท่องเที่ยวขนส่ง การเงิน และธนาคาร ขณะที่การแกลงแนวทางสำหรับโครงการระยะกลาง-ยาว เช่นโครงการ Land bridge โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โครงการ Soft Power โครงการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า จะช่วยสร้างแรงหนุนให้หุ้นในกลุ่ม ก่อสร้าง อสังหาวัสดุก่อสร้าง และโรงไฟฟ้า ส่วนปัจจัยลบยังมีความกังวล 1) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่กดดันภาพรวมของเศรษฐกิจโลก 2) ตัวเลขเงินเฟ้อ Core CPI สหรัฐเดือน ส.ค. ออกมาขยายตัว 0.3%m-m ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ +0.2%m-m ขณะที่ CPI ชยายตัว 0.2%m-m และ 2.5%y-y ตามคาด โดยภาพ y-y ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.9% แต่ยังทรงตัวในภาพ m-m ทำให้โดยรวมอัตราเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลงอย่างเชื่องช้า ตลาดคาดการประชุมของเฟดในวันที่ 17-18 ก.ย.67 อาจเห็นการปรับลด อัตราดอกเบี้ยเพียง 25 bps ปัจจัยอื่นคืนนี้ตลาดจับตาการประชุม ECB คาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% หลังคณะกรรมการ ส่วนใหญ่ออกมาให้ความเห็นในเชิง Dovish มากขึ้นในช่วงก่อนหน้า และ PPI สหรัฐ เดือน ส.ค. ที่คาดจะออกมาชะลอตัว

กลยุทธ์การลงทุน : 1) นโยบายภาครัฐ+วายุภักษ์ : AP, BBL, BDMS, CPALL, FTREIT, GULF, ICHI, LHHOTEL, TTB, CK, KK, STEC, AAV, BA,AOT 2) ย้ายฐานการผลิต: AMATA, ROJNA, WHA 3) บาทแข็งค่า: BGRIM, GPSC, CRC, COM7, ADVICE, SYNEX

ปัจจัยบวก

  • รมว.อุตสาหกรรม เตรียมตั้งกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรมช่วยเหลือ อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก(SME)
  • อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่าการเพิ่มรายการสินค้าที่ติดบัญชีดำอีก 3 สินค้า ได้แก่ ปลาป่น น้ำมันปลา และ อาหารสัตว์ มิได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยไปสหรัฐอเมริกา เนื่องจากในปี 2563-2566 ไม่มีการส่งออกปลาป่น และนำมันปลาไปสหรัฐแต่อย่างใด ในส่วนของอาหารกุ้งมีการส่งออกไปเพียง 48-153 ตันต่อปีในช่วงดังกล่าว
  • ททท. ลุยจัดบิ๊กอีเวนต์ ตลอดเดือน ก.ย. ในชื่อ “มหกรรมเสน่ห์ไทย 5 ภูมิภาค” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวใน นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ ชลบุรีกาญจนบุรี และขอนแก่น คาดสร้างรายได้ 8 ร้อยล้านบาท
  • รมว.พลังงาน เตรียมพิจารณาปลดล็อกติดโซลาร์รูฟท็อปใช้เองเพื่อลดต้นทุนค่าไฟของภาคครัวเรือน และผลักดันใช้ระบบ Cost Plus ตลาดนำมันเพื่อลดต้นทุนพลังงานในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงช่วยดิงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ

ปัจจัยลบ

  • สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายที่อาจนำไปสู่การปิดสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกง (HKETO) ในสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลฮ่องกงเป็นอย่างมาก
  • จีนเผยยอดขายรถยนต์ในจีนรวมส่งออกลดลง 5% ในเดือนสิงหาคมลดลง 3 เดือนติดต่อกัน สะท้อนกำลังซื้อที่อ่อนแอ
  • ซีเอ็นบีซีระบุ ผู้บริโภคชาวจีนประหยัดการใช้จ่ายในทุกๆ อย่างมากขึ้น ตั้งแต่ของชำไปจนถึงการท่องเทียว เนื่องจากจีนยังประสบกับวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ยืดเยื้อและอัตราการว่างงานสูง
  • 4 ธุรกิจอสังหาฯระดับแถวหน้า ออกมายอมรับการปรับแผนธุรกิจ ปี 67 หลังเศรษฐกิจซบเซา กำลังซื้อหดหาย สะท้อนจากผลงานครึ่งปีแรกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้ต้องปรับลดแผนการเปิดโครงการใหม่พร้อมเร่งระบายสต๊อกเดิมและตัดขายทรัพย์สินสร้างรายได้

PICKS OF THE DAY

GPSC BUY

  • เป้าหมาย 49.00 / 50.00 แนวรับ 45.00 / 46.00
  • เดินหน้าพอร์ต Solar: โครงการ Solar Farm ที่อินเดียผ่าน AVAADA ซึ่งปัจจุบัน COD แล้วประมาณ 4.6 GW อยู่ระหว่างการก่อสร้างประมาณ 2.1 GW ซึ่งจะทยอย COD ช่วงปลายปี นอกจาก นี้อินเดีย ยังต้องการโรงไฟฟ้า Solar อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วยหนุนกำไรในระยะยาว
  • ปัจจัยต่างๆ หนุน: เริ่มเห็นสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือนก.ย. ซึ่งจะทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาน่าสนใจมากขึ้น เช่นเดียวกับ upside ที่จะมีจากการเข้าร่วมประมูล Renewable ซึ่งหลัก เกณฑ์น่าจะออกมาช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้จากสถานการณ์พายุในช่วงนี้น่าจะเป็น upside หนุนกำไรส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าไซยบุรีในช่วง 3Q67 นี้

LHHOTEL BUY

  • เป้าหมาย 13.80 / 14.50 แนวรับ 13.00
  • สินทรัพย์ใหม่หนุนเติบโต: ใน 2Q67 กองทรัสต์มีรายได้รวม 553.05 ล้านบาท เติบโต 99.28% y-y สาเหตุหลักจากการรับรู้รายได้ค่าเช่าเพิ่มเติมประมาณ 247.14 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของโรงแรมในพัทยาและบางส่วนจากผลการดำเนินงานของโรงแรมเดิมของกองทรัสต์ฯที่ปรับตัวดีขึ้น สอดรับกับภาพการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ขณะที่ 2H67 ทางฝ่ายมองยังคงมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการรับรู้รายได้จากโรงแรมในพัทยาอย่างต่อเนื่อง
  • กองทรัสต์ฯโรงแรมที่ใหญ่สุดในไทย: จากการที่ LHHOTEL เป็นกองทรัสต์ประเภทโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่จดทะเบียนในตลท. ส่งผลให้ทางฝ่ายมองว่ามีแนวโน้มเป็นหนึ่งในเป้าหมายของกองทุนวายุภักษ์ ขณะที่ Dividend มีความน่าสนใจเช่นกัน โดยตลาดคาด Dividend yield สำหรับ 2H67 และ
  • ปี 2568 ที่ 4.4% และ 9.4% ตามลำดับ
- Advertisement -