วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,421 / 1,415 แนวต้าน 1,438 / 1,444

คาดตลาดจะให้น้ำหนักต่อการประชุม FOMC ของ FED ในสัปดาห์นี้ เรายังคงมุมมอง FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% รวมทั้งเริ่มเห็นการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาคได้บ้าง

Our View? “แกว่งออกข้าง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,421 / 1,415 และแนวต้านที่บริเวณ 1,438 / 1,444 สัปดาห์นี้เราให้ความสำคัญไปกับการติดตามการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ คาดมีโอกาสที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% แม้จะเริ่มมีการพูดถึงโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% จากที่ปรึกษาของคุณเจอโรม พาวเวล ประธาน FED และอดีตประธาน FED สาขานิวยอร์กออกมาแสดงความคิดเห็นถึงโอกาสที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% อย่างไรก็ตาม เรามองเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่อยู่ที่ FED ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 0.50% ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในภาพการชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งตลาดแรงงานแม้จะลดความร้อนแรงแต่ยังในระดับที่แข็งแกร่งทำให้เรายังมอง FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเพียง 0.25% สู่ระดับ 5.25% อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกของ FED สะท้อนถึงการจบรอบขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED เรามองเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะถัดไป

ในส่วนของตลาดภูมิภาค เราคาดจะได้รับแรงหนุนจากความหวังในการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของจีน หลังปธน. สี จิ้นผิง ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประจำปีที่ 5% คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. คาดจะเริ่มแกว่งตัวผันผวนออกด้านข้าง เราคาดกิจกรรมการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐจะเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งหลังผ่านพ้นช่วงผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนฟรานชีน (Francine) ส่งผลให้แท่นขุดเจาะน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เสริมอุปทานน้ำมันดิบกดดันทิศทางราคาน้ำมันได้บ้าง อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองการปรับลดอุปสงค์น้ำมันของ OPEC เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงแนวโน้มของ OPEC+ ในการชะลอแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทดแทนส่วนที่หายไปของลิเบีย อีกทั้งแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED คาดจะช่วยจำกัด Downside ของทิศทางราคาน้ำมันดิบ-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้าง

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการส่งสัญญาณถึงเร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตเร็วสุดวันที่ 25-26 ก.ย. นี้โดยจะจ่ายให้กับผู้เปราะบาง 14.2 ล้านคนวงเงินราว 14 แสนล้านบาทก่อน เราคาดจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเม็ดเงินในเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ปลาย 3Q67-4Q’67 รวมทั้งการเร่งออกกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1-15 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักลงทุนได้ดี คาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Big Cap. (ธนาคาร, ค้าปลีก และโรงไฟฟ้า) อีกทั้งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการออกนโยบายทางเศรษฐกิจต่างๆ ผ่านงบประมาณปี 67-68มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ-กลางตอนบนของประเทศไทยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ คาดมีโอกาสอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อ GDP ของไทยในช่วง 3Q’67 รวมทั้ง EPS ของตลาดหุ้นไทยได้ อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลด อาทิ (HMPRO, GLOBAL, DOHOME, DCC และ DRT) รวมทั้งหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคและการบริจาค (CPALL และ CPAXT)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “EGCO”

  • นักวิเคราะห์ของเราคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2H67 จะเติบโตโดดเด่นจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ไต้หวัน โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน APEX ในสหรัฐ และรับรู้ผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้ากลุ่ม Compass รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ลาว
  • ทางเทคนิค ภาพรายวันราคาอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่แต่เริ่มชะลอกำลังลงบ้างแล้ว ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD, RSI และ SSTO ชะลอกำลังลง ทำให้คาดว่าราคามิโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างพักฐานได้บ้าง
  • แนะนำ “ย่อซื้อ”
  • แนวรับ 121.00 / 119.50 Target 127.50 / 130.00 Stop <119.00

- Advertisement -