วันนี้คาดตลาด “Up”
แนวรับ 1,430 / 1,423 แนวต้าน 1,444 / 1,450
ตลาดคาดการณ์ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยแรง 0.50% หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่รีบาวด์ขึ้น คาดจะหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นช่วยหนุนตลาดเพิ่มเติม
Our View? “อย่าหยุดยั้ง”
คาดตลาดวันนี้ “Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,430 / 1,423 และแนวต้านที่บริเวณ 1,444 / 1,450 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศปรับตัวขึ้น ตามคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในการประชุม FOMC ในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ โดยเช้านี้ CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงถึง 0.50% ที่น้ำหนัก 65.0%+/- เร่งตัวขึ้นจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ 0.25% หลังที่ปรึกษาของคุณเจอโรม พาวเวล ประธาน FED และอดีตประธาน FED สาขานิวยอร์กออกมาแสดงความคิดเห็นถึงโอกาสที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% อย่างไรก็ตาม เรามองเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่อยู่ที่ FED ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 0.50% ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในภาพการชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งตลาดแรงงานแม้จะลดความร้อนแรงแต่ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ทำให้เรายังมอง FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเพียง 0.25% สู่ระดับ 5.25% อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกของ FED สะท้อนถึงการจบรอบขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED เรามองเป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อในระยะถัดไป
อีกทั้งเรายังมีมุมเชิงบวกจากความหวังในการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของจีน หลังปธน. สี จิ้นผิง ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมประจำปีที่ 5% คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคได้เพิ่มเติม
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบ WTI. ส่งมอบเดือน ต.ค. ฟื้นตัวขึ้นจากคาดการณ์ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เป็นปัจจัยทางอ้อมช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐ อีกทั้งยังกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าส่งผลกระทบเชิงบวกต่อราคาน้ำมันดิบ ขณะที่เรายังคงมุมมองการปรับลดอุปสงค์น้ำมันของ OPEC เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงแนวโน้มของ OPEC+ ในการชะลอแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อทดแทนส่วนที่หายไปของลิเบีย คาดจะช่วยหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบ-หุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์ขึ้นได้
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการส่งสัญญาณถึงเร่งออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ตเร็วสุดวันที่ 25-26 ก.ย. นี้โดยจะจ่ายให้กับผู้เปราะบาง 14.2 ล้านคน วงเงินราว 14 แสนล้านบาทก่อน เราคาดจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเม็ดเงินในเศรษฐกิจได้ตั้งแต่ปลาย 3Q’67-4Q’67 รวมทั้งการเร่งออกกองทุนวายุภักษ์วงเงิน 1-1.5 แสนล้านบาท ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากนักลงทุนได้ดี คาดเม็ดเงินจะเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นไทยโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Big Cap. (ธนาคาร, ค้าปลีก และโรงไฟฟ้า) อีกทั้งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการออกนโยบายทางเศรษฐกิจต่างๆ ผ่านงบประมาณปี 67-68 มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
อย่างไรก็ตาม เรายังคงแนะนำติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือ-กลางตอนบนของประเทศไทยจากฝนตกหนักในหลายพื้นที่ คาดมีโอกาสอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อ GDP ของไทยในช่วง 3Q’67 รวมทั้ง EPS ของตลาดหุ้นไทยได้ อย่างไรก็ตามเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลด อาทิ (HMPRO, GLOBAL, DOHOME, DCC และ DRT) รวมทั้งหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่จำหน่ายสินค้าจำเป็นเกี่ยวกับการอุปโภคบริโภคและการบริจาค (CPALL และ CPAXT)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “PTTGC”
- เรายังชอบ PTTGC จากเรามองว่าราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงรับรู้ความกังวลการตั้งสำรองด้อยค่าของสินทรัพย์ราว 2 หมื่นล้านบาทในช่วง 2H’67 ไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง โดยราคาของ PTTGC ปัจจุบันเทรดอยู่ที่ระดับเพียง Fwd PB 0.45 เท่า ต่ำกวา Book Value ค่อนข้างมากเทียบเท่ากับช่วงของ Covid-19 ในเชิงกลยุทธ์เรามองยังเป็นโซนในการเข้าซื้อได้
- ทางเทคนิค ภาพรายวันราคาอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นพยายามทำจุดสูงสุดใหม่ในภาพระยะสั้น ขณะที่เครื่องมือทางเทคนิค MACD, RSI และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
- แนะนำ “ซื้อเล่นรอบ”
- แนวรับ 28.00 / 27.00 Target 30.00 / 32.50 Stop <26.50