บล.กรุงศรีฯ: 

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index เพิ่มขึ้น 1.07 จุด (+0.07%) ปิดที่ระดับ 1,437 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.4 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 260 บริษัท, หุ้นปรับลง 244 บริษัท) พักตัวนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประชุมเฟดในช่วงวันที่ 17-18 ก.ย. นี้ (บ้านเราทราบผลเช้าวันพฤหัสบดี) Sector ที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ กลุ่มขนส่ง (AOT), กลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH, TRUE), กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA), รับเหมาฯ (CK, STEC), และกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL, ERW)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น

  • AOT (+3.19%), CENTEL (+2.58%), ERW (+4.95%) ปรับขึ้นเด่น Outperform ตลาดในวันนี้ มีข่าวดีตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายสัปดาห์ (9-15 ก.ย.) มีจำนวน 636,932 คน เพิ่มขึ้น 19.31%wow ผสานกับนักลงทุนคาดว่าภาครัฐจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวเพิ่มเติม อาทิ “เราเที่ยวด้วนกัน” เป็นจิตวิทยาบวกต่อผู้ประกอบการที่เน้นนักท่องเที่ยวในประเทศโดยเฉพาะ ERW
  • CK (+4.48%), STEC (+4.17%), ITD (+8.7%) SEAFCO (+4.55%) นักลงทุนเข้าเก็งกำไรคาดหวังภาครัฐเร่งเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่จำนวน 13 โครงการมูลค่ารวมกว่า 7 แสนล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2, รถไฟความเร็วสูง, โครงการรถไฟฟ้า และ โครงการก่อสร้าง ทางด่วน และ มอเตอร์เวย์  
  • KCE (+2.65%), HANA (+3.27%), DELTA (+0.98%) มีจิตวิทยาบวกหลังสิงคโปร์รายงานยอดส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมัน (NODX) เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 10.7%yoy หลักๆ เป็นยอดส่งออกอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเดือน ส.ค.มียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 35.1%yoy เร่งตัวขึ้นจากเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้น 16.8%yoy (ลุ้นยอดส่งออกชิ้นส่วนของไทยขยายตัวในทิศทางเดียวกับสิงคโปร์)
  • CPAXT (-3.79%) มีจิตวิทยาลบ บริษัทแจ้งเตรียมหยุดซื้อขายหุ้นชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ถึง 2 ต.ค. นี้ เพื่อทำธุรกรรมควบรวมระหว่าง CPAXT กับ Ek-Chai เป็นบริษัทใหม่ คือ CPAXTT ซึ่งจะกลับมาซื้อขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2024 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลงนักลงทุนระยะกลางยาวยังแนะนำซื้อโดยมีราคาเหมาะสมก่อนควบรวมที่ 40 บาท และ หลังควบรวมที่ 41 บาท ตามลำดับ
  • SCC (-3.21%) นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์มีมุมมองลบต่อข้อมูลที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์ ประเมินธุรกิจปิโตรเคมียังมี downside โดยเฉพาะหากโครงการ LSP ในเวียดนานดำเนินการผลิตได้ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ ส่วนการจัดหาต้นทุนใหม่ คือ Ethane ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า propane และ naphtha แม้จะเป็นบวกกับบริษัทแต่ต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปี ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงกว่า 27% ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนจึงมีโอกาสย่อตัวเพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่
- Advertisement -