ที่ประชุม ครม. อนุมัติแจกเงินหมื่นบาท คืนนี้รอติดตามประชุมเฟด

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืน ปิดทรงตัว (-0.04%) ตลาดหุ้นอ่อนตัวลงหลังทดสอบจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยนักลงทุนรอติดตามผลประชุม FED ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.3% ได้ปัจจัยหนุนจากคาดหวังอุปสงค์น้ำมันจะดีขึ้นหาก FED ปรับลดดอกเบี้ย

Market Outlook

เมื่อวานที่ผ่านมาที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครั้งแรกภายใต้รัฐบาลชุดใหม่) ได้ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท (โครงการ Digital Wallet) ให้กับกลุ่มเปราะบางและผู้พิการ ซึ่งจะเริ่มแจกตั้งแต่ 25 ก.ย. พร้อมคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน โดยครอบคลุมจำนวนประชาชนราว 14.5 ล้านคน ทั้งนี้รัฐบาลได้แถลงว่าจะแจกเป็นเงินสด ข้อดีของการแจกเงินสดนั้นทำให้การจับจ่ายใช้สอยกระทำได้ง่าย และธุรกิจขนาดใหญ่ได้รับผลบวกโดยเฉพาะค้าปลีกที่ขายสินค้าขนาดเล็กเน้นอุปโภคบริโภค (BJC CPALL CPAXT) รวมไปถึงสินค้า IT (COM7 SIS SYNEX) ร้านอาหาร (CENTEL M MINT) พร้อมกับเชื่อว่าด้วยสภาพคล่องที่สูงขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนความสามารถในการชำระหนี้บวกต่อกลุ่มการเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) สำหรับสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมารายงานยอดค้าปลีกประจำเดือน ส.ค. ขยายตัว 0.1%MoM ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะหดตัว -0.2%MoM สำหรับรายละเอียดสินค้าภายในพบว่าไม่ค่อยดีเท่าใดนัก สะท้อนผ่านการปรับลงของสินค้าในกลุ่มยานยนต์ กลุ่มตกแต่งบ้าน เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยสะท้อนถึงความไม่มั่นใจต่อการบริโภคของประชาชนในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ขยายตัวในกลุ่มการแพทย์และร้านค้าเบ็ดเตล็ด โดยคืนนี้รอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะทราบผลทางการในช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch กลับมาให้น้ำหนักมากถึง 63% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.50% และให้น้ำหนักราว 37% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% เท่ากับว่าคืนนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED อาจปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 0.50% หากเป็นเช่นนั้นจริงเท่ากับว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจเผชิญการชะลอตัวอย่างแท้จริง และต้องติดตามว่าหลังจากนี้ผลกระทบจะมากน้อยเพียงใด เพราะหากเศรษฐกิจปรับตัวลงหนักจะส่งผลต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจไทยผ่านการส่งออก แต่อย่างไรก็ตามหาก FED ปรับลดดอกเบี้ยเพียง 0.25% นักลงทุนอาจผิดหวังและตลาดหุ้นเสี่ยงปรับฐานระยะสั้น แต่ระยะกลางจะเป็นปัจจัยสนับสนุนว่า FED มิได้มองเศรษฐกิจสหรัฐฯย่ำแย่และอาจทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงถัดไป นอกเหนือจากดอกเบี้ยแนะติดตามถ้อยแถลงกับตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1430 – 1445 ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนนักลงทุนระยะสั้นอาจเลือกแบ่งทยอยทำกำไรบางส่วน หลังดัชนีปรับขึ้นมารับปัจจัยบวกต่างๆไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนโยบายกระตุ้นรัฐบาล กองทุนวายุภักษ์ การลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นแนะเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ปัจจัยหนุนราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมารวมไปถึงกลุ่มส่งออก (ITC TU) ปัจจัยบวกเงินบาทอ่อนค่า กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ปัจจัยหนุนรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 181.00 บาท)

รายงานกำไรสุทธิใน 2Q24 ที่ 2.4 หมื่นล้าน (+14%YoY, +28% QoQ) มากกว่าที่เราและตลาดคาด โดยปริมาณการขายเพิ่มขึ้นเป็น 507 KBOED (+14% YoY, +7%QoQ) เนื่องจากการผลิตก๊าซจากแหล่งเอราวัณปรับสูงขึ้น (ราคาขายเฉลี่ยต่ำกว่าแบบสัมปทานเดิม) และ Algeria HBR ที่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาเฉลี่ย (ASP) อยู่ที่ 47 US$/BOE (+3%YoY, -1%QoQ) ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 29.25 บาท)

ภาพรวมในช่วง 2H24 ในแง่รายได้คาดว่าจะยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการออกสินค้าใหม่ๆ ที่ยังมีอยู่ รวมถึงปัญหาตู้สินค้าขาดแคลนได้ผ่านพ้นไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมาทำให้การส่งสินค้าตั้งแต่เดือน ส.ค. กลับสู่ระดับปกติแล้ว ซึ่งล่าสุดผู้บริหารมีการแจ้งว่างวด 3Q24 คำสั่งซื้อที่แน่นอนแล้วประมาณ 90% ของเป้าที่ตั้งว่าจะเติบโต 18-19%YoY

- Advertisement -