SINGER ฉลุย! คืนเงินหุ้นกู้ระยะสั้น 400 ลบ. พร้อมดอกเบี้ยตามกำหนด รุกธุรกิจ Lock เครื่องใช้ไฟฟ้า จับมือครีเอเตอร์เพิ่มยอด
SINGER เดินหน้าคืนเงินกู้ระยะสั้นพร้อมดอกเบี้ย วงเงิน 400 ล้านบาท ตามกำหนด และเตรียมควักกระเป๋าไถ่ถอนหุ้นกู้อีก 2,000 ล้านบาท ไว้เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน ชูสินเชื่อ SG Finance+ เติบโตกระโดด พร้อมต่อยอดแคมเปญ Lock เครื่องใช้ไฟฟ้า และขยายเครือข่ายต่อเนื่อง ร่วมแคมเปญ ตี๋โอ จับมือครีเอเตอร์ปั้นยอด
นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินการชำระหุ้นกู้คืนที่ได้ออกและเสนอหุ้นกู้ระยะสั้นที่มีประกันครั้งที่ 1/2567 วงเงิน 400 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี เสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 17 กันยายน 2567 โดยบริษัทได้ชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ SINGER เตรียมเงินสำรองที่จะชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 24 กันยายนนี้ จำนวนเงิน 2,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยด้วยเช่นกัน และคงเหลือหุ้นกู้ล็อตสุดท้ายที่จะครบกำหนดในไตรมาส 1 ปี 2568 ทำให้ภาพรวมต้นทุนการเงินลดลง และความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้นตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจ Lock Phone จากการปล่อยสินเชื่อโทรศัพท์มือถือ ผ่าน SG Finance+ ภายใต้ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC (บริษัทย่อย) เห็นได้ว่า แนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ให้ผลตอบแทนดี มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด สามารถควบคุมความเสี่ยง มีหนี้เสีย (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำมาก มีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น และ D/E ต่ำลง
ในด้าน SINGER มุ่งเน้นการต่อยอด โดยนำสินเชื่อ SG Finance+ มาช่วยขยายเครือข่ายการขาย ลดกระบวนการขั้นตอนการทำเอกสาร ลดปริมาณการใช้กระดาษ เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ตั้งแต่กระบวนการขอสินเชื่อ การพิจารณา และการอนุมัติ ด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทฯ ได้ขยายพอร์ตจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ามัลติแบรนด์ รวมทั้ง นำแคมเปญ Lock มาใช้ในสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่มต้นที่กลุ่มโทรทัศน์ และกำลังเพิ่มไปยังกลุ่มเครื่องซักผ้า และจักรยานไฟฟ้า สะท้อนการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ SINGER สเกลได้ และขยายเครือข่ายผ่านสาขาและพาร์ทเนอร์ของSINGER ช่วยขยายการเติบโตของธุรกิจ ด้วยความเสี่ยงที่รัดกุม
นอกจากนี้ การขยาย Multi-Channel Network กับครีเอเตอร์ชั้นนำ ภายหลังจากกลุ่มเจมาร์ทจับมือกับ VEGA Creator หรือ ตี๋โอ ผู้สร้างปรากฏการณ์ทำ Live Commerce ของเมืองไทย รับกระแสการซื้อสินค้าผ่าน Social Media Platform ซึ่ง SINGER ก็เข้ามาร่วมโครงการนี้ด้วย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้วยช่องทางที่มีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4