บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 0.83 จุด (-0.06%) ปิดที่ระดับ 1,436 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 253 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 238 บริษัท) ปิดกรอบแคบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน นักลงทุนชะลอการลงทุนและขายลดความเสี่ยงเพื่อรอดูผลประชุมเฟดในคืนวันนี้ (บ้านเราทราบผลเช้ามืดวันพรุ่งนี้) Sector ที่ลงกดดัชนี คือ กลุ่มค้าปลีก (CPALL, HMPRO, GLOBAL), ขนส่ง (AOT, BTS) และ กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น
- BBL (-2.21%), KBANK (-0.63%), TTB (-0.52%) มีจิตวิทยาลบจากกระแสข่าวภาครัฐกดดันแบงก์ชาติปรับลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วน BBL ปรับลง Underperform กลุ่มจากข่าวธนาคารกลางอินโดฯ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 6.25% เป็น 6% กระทบ NIM ธุรกิจแบงก์ของ BBL ในอินโดฯ (Permata Bank)
- BDMS (+0.85%), BH (+1.12%), BCH (+0.58%), PR9 (+2.43%) นักลงทุนทยอยเข้าสะสมคาดหวังกำไรสุทธิ 3Q24 กลับมาเร่งตัวขึ้นเมื่อเทียบ qoq จาก high season ของธุรกิจ ผสานกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำเลือกหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเป็นที่พักเงินเนื่องจากไม่มั่นใจภาวะตลาดหลัง FED Meeting
- BA (+0.87%), AAV (+2.29%) นักวิเคราะห์กลุ่มสายการบินของเราออกบทวิเคราะห์คงน้ำหนัก Bullish หุ้น BA และ AAV จาก 1) นักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว, 2) คาด BA และ AAV บันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหลังค่าเงินบาทแข็งค่าราว 3.50 บาท จากสิ้น 2Q24 และ 3) ราคาน้ำมันอากาศยานปรับลงในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน หนุนมาร์จิ้นและกำไรเพิ่มขึ้น เรายังแนะนำ ซื้อ โดยเลือก BA เป็น Top Pick ของกลุ่ม เป้าหมาย 25.75 บาท
- KSL (+3.74%), BRR (+4.59%), STA (+2.62%) ทีมกลยุทธ์และนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราแนะเก็งกำไรเช้าวันนี้ โดยกลุ่มน้ำตาลมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำตาลโลกปรับตัวขึ้นแตะระดับ 20.37$/Ib +3.98% dod ทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 เดือน, กลุ่มยางพาราปรับขึ้นแตะระดับ 374.5 JPY/kg +4.35% dod ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ปี