นายพิเชษฐ ตุรงคินานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ CMO

“ซีเอ็มโอ” ผู้นำตลาดครีเอทีฟอีเวนต์ เดินหน้ารุกขยายงานเต็มที่ หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวมีมติอนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ และแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 3. ของบริษัท เพื่อรองรับและเพิ่มโอกาสในการประกอบธุรกิจในอนาคต

นายพิเชษฐ ตุรงคินานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการ บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้ดำเนินธุรกิจสร้างสรรค์บริหารจัดการงานอีเวนต์ นิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ งานประชุมสัมมนา คอนเสิร์ต และเฟสติวัล เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 67 ซึ่งที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ และการแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิข้อที่ 3 เพิ่มเติมจาก 30 ข้อ เป็นรวมทั้งสิ้น 48 ข้อ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจและเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรับงานของบริษัทฯ ในอนาคต

โดยวัตถุประสงค์การดำเนินธุรกิจที่เพิ่มเติม อาทิ จัดงานประชุม สัมมนา เวิร์คช็อป อีเวนท์ อบรมให้ความรู้ รวมถึงงาน อีเวนท์ทุกชนิดทั้งแบบออนไซต์ (onsite) และแบบออนไลน์ (online) จัดงานมอบรางวัล งานประกาศเกียรติคุณ งานฝึกอบรมทุกประเภท งานแสดงสินค้า งานแสดง แสง สี เสียงและสื่อผสม ตลอดจนงานเปิดตัวสินค้า งานส่งเสริมการขาย งานประชาสัมพันธ์ งานโฆษณา งานคอนเสิร์ต งานนิทรรศการ ละครเวทีงานแสดงดนตรี ละคร ภาพยนตร์ งานด้านการกีฬา และงานบันเทิงทุกประเภท ตลอดจนเป็นผู้ดำเนินการจัดหา พื้นที่การจัดงาน หรือขายพื้นที่สำหรับการจัดงาน หรืองานแสดงสินค้าทุกประเภท รวมถึงให้บริการพื้นที่เพื่อถ่ายทำละคร โฆษณา สื่อออนไลน์ และเป็นตัวแทนในการเก็บค่าใช้บริการพื้นที่ เป็นต้น

“ในปัจจุบัน ธุรกิจอีเวนต์แยกประเภทหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ทั้งในระดับภูมิภาคและนานาชาติดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เติบโตไปตามเทรนด์ของโลกอยู่ตลอดเวลา บริษัทฯ จึงต้องเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ เพิ่มความคล่องตัวในการเข้าประมูลงาน ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ซึ่งการเพิ่ม วัตถุประสงค์ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการเข้าแข่งขัน รองรับการเติบโตที่บริษัทฯ ตั้งเป้าสู่การเป็น No.1 ในธุรกิจครีเอทีฟอีเวนต์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ครบวงจร สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย” นายพิเชษฐ กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโครงการยังกล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางในช่วงไตรมาส 4 นี้ เข้าสู่ช่วงไฮซีชั่นของ ธุรกิจอีเวนต์ และธุรกิจคอนเสิร์ต ซึ่งบริษัทฯ เตรียมแผนขยายธุรกิจเต็มที่ ทำให้เชื่อว่าในปีนี้รายได้มีโอกาสจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 1,200-1,500 ล้านบาท รวมถึงมีดีลโครงการปีหน้าไว้บ้างแล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบัน สัดส่วนลูกค้าเป็นบริษัทเอกชน 80% ส่วนภาครัฐ 20%

- Advertisement -