KS Daily View 25.09.2024 >>> PBOC หนุน Dow Jones และ S&P500 ทำ All Time High คาดกรอบ SET ที่ 1,450 – 1,480 แนะนำ SIRI, TKN

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น Dow Jones +0.20%, S&P500 +0.25% ขึ้นทำ All Time High ดัชนี Nasdaq Composite +0.56% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน และ Russell 2000 +0.17% โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางจีน (PBOC) ที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 วันและลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อเสริมสภาพคล่อง ถึงแม้ว่าเมื่อคืนนี้ในสหรัฐฯ จะมีแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับจีนได้แก่ ทองแดง เหล็ก และเครื่องจักรหนัก ปรับตัวขึ้น Outperform นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจาก Nvidia ที่ปรับตัวขึ้นราว 4% หลังมีรายงานว่า Jensen Huang (CEO) ได้เสร็จสิ้นการขายหุ้นตามแผนแล้ว

SET Index ปรับตัวขึ้น 14 จุด ปิดที่ 1,462.10 จุด ทำระดับสูงสุดในปีนี้ โดยเป็นการปรับตัวขึ้นตามตลาดในภูมิภาคที่ตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น Outperform เป็นกลุ่มที่พึ่งพาความต้องการซื้อจากจีนอย่าง Petrochemical, Packaging และกลุ่มเดินเรือ นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Electronic ที่ปรับตัวขึ้นหนุนตลาดด้วยอีกแรง มองกรอบของ SET ที่ 1,450 – 1,480 แนะนำ SIRI, TKN

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Conference Board ลดลง 6.9 จุด จาก 105.6 เหลือ 98.7 ทำระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และเป็นการลดลงภายในเดือนเดียวที่มากที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2021 เนื่องจากความกังวลเรื่องตลาดแรงงานและเศรษฐกิจ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับชั่วโมงการทำงานที่ลดลง การเติบโตของการจ้างงานที่น้อยลง และตำแหน่งงานที่น้อยลง แม้ว่าการว่างงานจะต่ำและค่าจ้างยังสูงก็ตาม

2.ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศมาตรการกระตุ้น โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 7 วันลงเหลือ 1.5% จาก 1.7% และลดอัตราส่วนเงินสำรองขั้นต่ำของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 50 bps เหลือ 9.5% จาก 10% ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง 1 ล้านล้านหยวน พร้อมส่งสัญญาณจะลด RRR ลงอีก 25 ถึง 50 bps ในช่วงปลายปีนี้ นอกจากนี้ยังจะลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเดิมลง ซึ่งจะมีผลต่อสินเชื่อมูลค่าถึง 5.3 ล้านล้านดอลลาร์ และลดสัดส่วนเงินดาวน์ขั้นต่ำสำหรับบ้านหลังที่สองจาก 25% เหลือ 15% PBOC ยังจะจัดหาสภาพคล่องอย่างน้อย 800 พันล้านหยวนเพื่อสนับสนุนตลาดหุ้น

3.Kazuo Ueda ผู้ว่า BOJ ส่งสัญญาณว่าแม้จะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีก แต่ก็จะไม่เร่งรีบในการดำเนินการ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการประเมินปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ พร้อมกล่าวว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่สูงขึ้นดูเหมือนจะลดลง เนื่องจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะรอจนถึงเดือนธันวาคมหรือมกราคมปีหน้าก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

4.ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี เนื่องจากยังคงต้องรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่ยังสูง ทำให้ไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้เหมือนธนาคารกลางอื่น ผู้ว่าการ Michele Bullock กล่าวว่า RBA ไม่ได้พิจารณาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างชัดเจนในการประชุมครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นทางเลือกนโยบายใดๆ โดยยังคงมุ่งเน้นที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2-3% อย่างยั่งยืน แม้จะมีแรงกดดันทางการเมืองให้ลดอัตราดอกเบี้ย

5.กรุงเทพธุรกิจ รายงานนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการส่งออก มอบหมายรองนายกฯ และรมว.คลัง พิชัย ชุณหวชิร นัดหารือกับผู้ว่าการ ธปท. ในสัปดาห์หน้าเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ กรอบเงินเฟ้อ และค่าเงินบาท

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

SIRI: ราคาพื้นฐาน 2.06 บาท

แนวโน้มผลประกอบการที่โดดเด่นในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ที่มุ่งเน้นการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวในกลุ่มลักชัวรี ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าระดับกลางถึงสูง การฟื้นตัวของยอดขายและโอนกรรมสิทธิ์จะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลง นอกจากนี้ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์การขยายตลาดของ SIRI ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันในตลาดอสังหาฯ ได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้กระทรวงการคลังเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์เร็วๆนี้ แนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 2.06 บาท

TKN: ราคาพื้นฐาน 13.60 บาท

แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากราคาสาหร่ายทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทคาดว่าจะเห็นผลกระทบเต็มที่จากต้นทุนสาหร่ายทะเลใน 3Q24 ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลง แต่การเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและการปรับราคาขายที่สูงขึ้นจะช่วยรักษาผลกำไรได้ คาดว่าราคาสาหร่ายทะเลจะลดลงในปี 2025 โดยได้รับผลดีจากการผลิตที่ดีขึ้นและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเพาะเลี้ยง TKN กำลังขยายตลาดในสหรัฐอเมริกาและอินโดนีเซียอย่างรวดเร็ว เพื่อทดแทนยอดขายในจีนที่ชะลอตัว โดยได้ร่วมมือกับ Walmart และ Kroger ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดขนมขบเคี้ยวในสหรัฐฯ ประมาณ 38-48% ซึ่งตลาดนี้เติบโตปีละ 11% นอกจากนี้ในอินโดนีเซีย TKN ได้เปลี่ยนผู้จัดจำหน่ายใหม่ซึ่งขยายเครือข่ายได้กว้างขวางขึ้น คาดว่าผลกำไรจะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาสาหร่ายทะเลกลับสู่ภาวะปกติและการควบคุมต้นทุนยังคงแข็งแกร่ง แนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานกลางปี 2025 ที่ 13.60 บาท

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐ (New home sale) เดือน ส.ค. โดดตลาดคาดที่ 6.93 แสนหลังเร่งขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.39 แสนหลัง
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอย่าง ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -2.9% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +9.8% MoM ต่อด้วยการรายงานของ GDP ใน 2Q24 ของสหรัฐครั้งสุดท้าย ตลาดคาดการณ์ที่ +2.9% QoQ เทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ +3.0% QoQ และ ถ้อยคำแถลงการณ์ของประธานเฟดอย่าง Jerome Powell ในงาน US Treasury Market Conference ปิดท้ายด้วยการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.19 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขของสหรัฐที่รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) เดือน ส.ค ตลาดคาดการณ์ที่ 2.7% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.6% YoY ต่อด้วย ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล (Personal income) เดือน ส.ค ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% MoM และ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal spending) เดือน ส.ค ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.5% MoM
- Advertisement -