บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับลง -6.55 จุด (-0.45%) ปิดที่ 1455.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท ยังไม่มี Factor อะไรใหม่ ตลาดยังรอประธาน Fed Powell แถลงคืนนี้และเงินเฟ้อ PCE วันพรุ่งนี้ โดย Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนีคือ กลุ่มประกันชีวิต BLA, TLI กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ DELTA กลุ่มค้าปลีก CPALL, GLOBAL ฯลฯ กลุ่มที่กดดัชนีคือ ส่วนใหญ่คือ กลุ่ม China Play กลุ่ม ICT (ADVANC) กลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC, IVL) พลังงาน (PTTEP) ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
🏢 CHG +3.79%, BCH 7.02%
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลประกันสังคมปรับขึ้น แรงหนุนจากความคลายกังวลหลัง สมาคม ร.พ. เอกชน เสนอให้ประกันสังคม จ่ายค่า RW >2 ที่ 12,000 และราคาหุ้นในกลุ่มปรับลบข่าวลบช่วงก่อนไปมากแล้ว KSS ยังมองบวกต่อ CHG (TP25F@3.2) Top picks หุ้นประจำเดือน ก.ย. ประเมินงบ 3Q24F จะเด่นสุดของปีเติบโต y-y และ q-q จากธุรกิจปกติและปัจจัยเสริม และทิศทางกำไรสุทธิจะเติบโตต่อเนื่องจากมีศักยภาพรักษาโรคยากซับซ้อนที่ครบวงจร ทำให้มีความสามารถแข่งขัน และเพิ่มโอกาสขยายตลาดลูกค้าใหม่ และราคาหุ้น CHG ซื้อขายที่ Forward PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย คงคำแนะนำ Buy
✈️AOT +0.4%
ปรับขึ้นมีปัจจัยหนุนจากสัปดาห์หน้าจะเข้าสู่ Golden Week ท่องเที่ยวจีน คาดหนุนบรรยากาศท่องเที่ยวคึกคัก บวกต่อ AOT นอกจากนี้ เป็นหุ้นที่มีโอกาสกองทุนวายุภักษ์ใหม่จะเพิ่มน้ำหนักลงทุน
🇨🇳 SCGP -5.4%
ปรับลง รับ ต่อแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q24F ที่จะแย่กว่าที่เคยประเมิน ลดลงทััง y-y, q-q (เดิมเราคาด 1,471 ลบ. +12% y-y, -1% q-q) จาก i) ปริมาณขาย integrated packaging ทรงตัว q-q แม้วันหยุดลดลง ฉุดจากปริมาณขายของ fajar ลดลง ระดับ double digits (เดิมเราคาดทรงตัว) กระทบจากส่งออกไปจีนได้น้อย โดย ก.ย. ยังไม่ฟื้น นอกจากนี้การขายฝั่ง Food service ชะลอตาม demand ของ EU ii) การปรับขึ้นราคาขายทำได้ช้า ในขณะที่ต้นทุนกระดาษเพิ่มขึ้นกว่า 5% q-q และ iii) ราคาขายของ Fibrous chain ลดลงมากกว่าคาด กลบค่าใช้จ่ายปิดซ่อมที่ลดลง
💡BGRIM -0.42%, GULF -0.87%, GPSC-0.53 %, GUNKUL -0.7%
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลง รับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นมาระยะสั้นเป็นประเด็นเชิงลบต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าซึ่งมีหนี้ต่างประเทศสูง และ ราคาก๊าซธรรมชาติ (NYMEX Natural Gas) ปรับขึ้นทำราคาสูงสุดในรอบ 3 เดือน กดดันต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
🛠 DOHOME +1.85%, GLOBAL +1.32%, HMPRO +0.93%
หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการซ่อมแซมและตกแต่งบ้านปรับขึ้น จาก 1.)วานนี้รัฐเริ่มแจกเงินสนับสนุนบริโภคเฟสแรก 1.45 แสนล้านบาท หลังจากนี้ทยอยแจกจนครบ 30 ก.ย. เป็นจุดเริ่มต้นของกระแสเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 2.) ประเด็นน้ำท่วมที่ยังคงดำเนินตลาดเชื่อว่าภายหลังสถานการณ์ดังกล่าวคลี่คลาย คาดจะมี demand สินค้ากลุ่มนี้เร่งขึ้น ซึ่งหากอิงตามสัดส่วนรายได้ตามพื้นที่ภาค GLOBAL และ DOHOME จะมีสัดส่วนรายได้จากภาคเหนือและอีสานมากสุด 70% และ 60% จึงคาดเห็นการฟื้นตัวได้ก่อน มองว่าหากส่วนต่างราคาหุ้นกลุ่มซ่อมบ้านกลับมาเปิด upside และสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายจะเป็นโอกาสเข้าลงทุน คงคำแนะนำ BUY หุ้น GLOBAL (TP17.6) และ HMPRO(TP13.0)
