KJL เดินเครื่องเพิ่มกำลังการผลิตรับอุตฯ ไฟฟ้าโตไม่หยุด วางเป้าปีนี้รายได้ทะลุ 1,200 ลบ. ปิดไตรมาส 3 เพิ่มเครือข่าย KJL Network 10,000 คน
KJL โตต่อเนื่อง ครึ่งปีแรกเป๋าตุง 588.38 ล้านบาท วางเป้าปีนี้รายได้ทะลุ 1,200 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายธุรกิจทุกมิติ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าที่เติบโตไม่หยุด เดินเครื่องเพิ่มกำลังการผลิต 33 ล้านชิ้น และขยายเครือข่าย KJL Network ให้ครบ 10,000 คนภายในปีนี้ มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อมกัน เพื่อสร้างสังคมแห่งความปลอดภัยและเติบโตอย่างยั่งยืน
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า ผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯ ทำรายได้รวม 588.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 84.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.59% สะท้อนถึงการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากสินค้าหลัก เช่น ตู้สวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ และกล่องพูลบ็อกซ์ ซึ่งมีความต้องการสูงในตลาด
“บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2567 ไว้ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10-15% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการอัดฉีดงบประมาณจากภาครัฐในการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้า อุตสาหกรรมไฟฟ้า ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Solar Roottop เป็นต้น ทั้งนี้ KJL มีความพร้อมในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาด ด้วยการขยายกำลังการผลิตสินค้าต่างๆ จาก 30 ล้านชิ้นในปัจจุบัน เป็น 33 ล้านชิ้นภายในสิ้นปี 2567 และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 40 ล้านชิ้นในปี 2568”
ทั้งนี้มีแผนขยายธุรกิจในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าที่เป็นร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือ KJL Network ให้มากกว่า 1,000 แห่ง จากปัจจุบันมีแล้วจำนวน 800 แห่ง และขยายเครือข่ายช่างไฟฟ้า ผู้รับเหมา และวิศวกรทั่วประเทศให้มากกว่า 10,000 ราย ซึ่งในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนสมาชิก KJL Network ได้ถึง 8,800 คน จาก 5,000 คนในปีก่อน และคาดว่าจะบรรลุเป้าหมาย 10,000 คน หรือเติบโตขึ้น 100% ภายในสิ้นปีนี้ และบริษัทฯ ยังเดินหน้าสร้างเครือข่ายให้เหนียวแน่น ตามวิสัยทัศน์ ”Better Together“ ที่มุ่งเน้นการเติบโตไปพร้อมกับพันธมิตรและลูกค้า เพื่อสร้างสังคมแห่งความปลอดภัยและเติบโตอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ทั้งนี้ KJL มุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าและพัฒนานวัตกรรม เพื่อสนับสนุนความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มสินค้า
