บล.พาย:

ITC: I-Tail Corporation PCL

3Q24 คาดกำไรโต 56%YoY

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 32.9 บาท (25XPER’24E) มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q24 ที่คาดว่าจะยังเติบโตได้อีก 56%YoY มาอยู่ที่ระดับ 1,004 ล้านบาท ได้รับผลดีจากกำไรขั้นต้นที่ยังสูงได้ถึงระดับ 30% จากผลดีของต้นทุนปลาทูน่าที่อ่อนตัวลงมาชดเชยกับค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดโรงงานใหม่ ขณะที่รายได้ที่ยังเติบโตได้อีก 15%YoY หลังจากมีการเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง (ส่วนเทียบกับ 2Q24 จะลดลงเล็กน้อยเพราะ มีค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัทเพิ่มเข้ามา) ทั้งนี้จากกำไรที่คาดว่าจะออกมาดีทำให้เราปรับกำไรทั้งปีขึ้นอีก 13% เป็น 3,951 ล้านบาท (+73%YoY)

3Q24 คาดกำไรสุทธิ 1,004 ล้านบาท (+56%YoY, -1%QoQ)

  • เราคาดกำไรสุทธิงวด 3Q24 จะอยู่ที่ 1,004 ล้านบาท (+56%YoY, -1%QoQ) เทียบกับปีก่อนยังคงเติบโตได้ดีจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้นทุนราคาปลาทูน่าที่อ่อนตัวลงที่จะช่วยให้กำไรขั้นต้นยังยืนสูงในระดับ 30% ได้ใกล้เคียงกับ 2Q24 แม้จะมีต้นทุนค่าเสื่อมราคาเพิ่มเข้ามา ขณะที่ผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นยังกระทบไม่มากนัก เพราะมีการทำสัญญาล่วงหน้าไว้แล้ว โดยในไตรมาสนี้คาดว่าจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 113 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าวกำไรปกติอยู่ที่ประมาณ 1,117 ล้านบาท (+71%YoY)
  • รายได้คาดที่ 4,579 ลบ. ทรงตัวจาก 2Q24 เพราะมีคำสั่งซื้อบางส่วนไม่สามารถส่งมอบให้ลูกค้าได้จากปัญหาขาดแคลนตู้สินค้า (เป็นปัญหาต่อเนื่องจากตั้งแต่ต้นปี) แต่เพิ่มขึ้น 15%YoY ได้รับผลดีจากการเป็นช่วง High Seasons ของการส่งออก
  • กำไรขั้นต้นคาดที่ 30% ทรงตัวจาก 2Q24 แต่เพิ่มขึ้นจาก 19% ใน 3Q24 ได้รับผลดีจากต้นทุนที่ลดลง ซึ่งมาชดเชยกับค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มเข้ามา ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 395 ล้านบาท (+48%YoY, +1%QoQ) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาในการปรับปรุงบริษัทและค่าใช้จ่ายในการทำโปรโมชั่นสินค้า
  • รวมแล้วช่วง 9M24 กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,832 ล้านบาท (+87%YoY)

แนวโน้ม 4Q24 รายได้ยังดี แต่กำไรขั้นต้นอาจจะไม่สูงเท่า

ภาพรวมช่วง 4Q24 เบื้องต้นในแง่รายได้คาดว่าจะยังเติบโตจากปีก่อนได้แต่ระดับการเติบโตอาจจะไม่เท่ากับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีการยืนยันยอดขายได้แล้วประมาณ 50% จากเป้าหมายการเติบโตจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการออกสินค้าใหม่ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้รายได้จากคำสังซื่อที่เลื่อนมาจาก 3Q24 ที่ผ่านมา แต่สำหรับในแง่กำไรขั้นต้นอาจจะไม่สูงเท่า 3Q24 ที่ระดับ 30% เพราะเริ่มมีผลกระทบจากต้นทุนที่อาจจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะปลาทูน่าที่ราคาลดลงมามากในช่วง 3Q24 ที่ผ่านมา ส่วนปี 25 ทาง ITC มองว่าด้วยค่าเงินบาททีแข็งค่าขึ้นอาจจะทำให้ต้องมีการปรับกลยุทธ์การขายใหม่โดยการเน้นเพิ่มปริมาณสินค้าให้มากขึ้นทำให้อาจจะต้องมีการปรับลดขนาดสินค้าลง และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นไม่สูงเท่ากับปี 24 ที่ผ่านมาได้

แนะนำ “ซื้อ” โดยปรับกำไรขึ้นอีก 13%

จากกำไรสุทธิในช่วง 9M24 ที่หากออกมาตามคาดจะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 81% ของกำไรสุทธิเดิมที่เราคาดไว้ที่ 3,511 ล้านบาท เราจึงปรับกำไรทั้งปีขึ้นจากเดิม 13% มาอยู่ที่ระดับ 3,951 ล้านบาท (+73%YoY) ซึ่งทำให้เรา จึงยังแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 32.9 บาท (25XPER’24E)

- Advertisement -