KS Daily View 15.10.2024 >>> SET ทำจุดสูงสุดในปีนี้ ลุ้นปัจจัยบวกใหม่ ! มาตรการกระตุ้นภาครัฐ/ ประชุม กนง. มอง SET Sideway กรอบ 1,450 – 1,480 จุด แนะนำ AAV, BCH

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดการณ์ SET ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวเคลื่อนไหวในกรอบ 1,444 – 1,480 จุด โดยมีประเด็นหลักที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม ครม. ในวันอังคาร ภายหลังจากที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช. คลัง ให้สัมภาษณ์ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วว่าเตรียมเร่งพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและอสังหาฯ, การประชุม กนง. ในวันพุธ โดยตลาดคาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% แต่หากมีการส่งสัญญาณผ่อนคลายจะเป็นบวกต่อกลุ่ม Value โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน โรงไฟฟ้าและสื่อสาร, การประชุม ECB ในวันพฤหัสฯ ที่ตลาดคาดว่าจะปรับลด Deposit Facility Rateลง 25 bps จาก 3.50% เป็น 3.25%, วันศุกร์ที่จะมีตัวเลขเศรษฐกิจจีน อย่าง GDP ที่ตลาดคาดจะเติบโต 4.5% ชะลอตัวลง 4.7% ในไตรมาสที่แล้ว ทั้งนี้ช่วงสุดสัปดาห์ทางการจีนยังไม่ได้แถลงนโยบายการคลังใหม่แต่อย่างใด และติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางหลังอิสราเอลก็เตรียมโต้กลับอิหร่านได้ทุกเมื่อ ธีมการลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนำเก็งกำไรประเด็นการปรับลดดอกเบี้ยทั่วโลก ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาฯ ผลการประชุมบอร์ดการแพทย์และประกันสังคม พอร์ตการลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนำ GPSC MINT SIRI KTB BCH

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปรับลดช่วงบวกลงหลังขึ้นทดสอบ 1,480 จุด โดยมีกลุ่ม Petrochemical ที่กดดันตลาดลงมา โดยต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องที่ 1,165 ล้านบาท แต่นักลงทุนสถาบันก็ซื้อสุทธิต่อเนื่องเช่นกัน ทั้งนี้ค่าเงินบาทเริ่มมีการชะลอการอ่อนค่าจากระดับ 33.5 ต่อดอลลาร์ มองต่างชาติอาจชะลอการขายลงบ้าง คาด SET น่าจะ Sideway ในกรอบ 1,450 – 1,480 รอผลการประชุม กนง. และผลประกอบการของ TISCO

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.    DAMAC Group จากดูไบ ลงทุนกว่า 3.2 หมื่นล้านบาทในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในไทย โดยร่วมทุนกับ PROEN Corp ผ่านแบรนด์ Edgnex เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาด 20 เมกะวัตต์ โดยระยะแรก 5 เมกะวัตต์จะเปิดดำเนินการต้นปี 2568

2.   รัฐบาลเตรียมเปิดตัวโครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภาคเหนือหลังน้ำท่วม โดยจะสนับสนุน 400 บาทจาก 800 บาทต่อคนต่อทริป สำหรับนักท่องเที่ยว 10,000 คน เป็นโครงการนำร่องช่วงปลายปี พร้อมรับฟังข้อเสนอจากผู้ประกอบการเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยเชียงใหม่และเชียงรายพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยว 1 พฤศจิกายนนี้

3.    บอร์ด EEC อนุมัติแก้ไขสัญญารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปรับวิธีจ่ายเงินและแบ่งผลประโยชน์ใหม่ เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้เร็วขึ้น พร้อมเปลี่ยนแนวทางโครงการศูนย์ซ่อมเครื่องบินที่อู่ตะเภา นอกจากนี้รายงานว่า 9 เดือนที่ผ่านมา มีการลงทุนใน EEC 12 โครงการ มูลค่ารวม 135,000 ล้านบาท

4.    รมว.แรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เสนอแนวคิดเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 จาก 1,000 บาทเป็น 3,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 7 ปี หากส่งบุตรไปเลี้ยงในชนบท เพื่อจูงใจให้แรงงานไทยมีบุตรเพิ่ม แก้ปัญหาประชากรลดลง โดยจะนำเสนอแนวคิดนี้ต่อบอร์ดประกันสังคมต่อไป

5.   ในการแถลงข่าววันเสาร์ รัฐมนตรีคลังจีนประกาศแผนเพิ่มการกู้ยืมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยจะช่วยรัฐบาลท้องถิ่นจัดการหนี้ อุดหนุนผู้มีรายได้น้อย สนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มทุนให้ธนาคารรัฐ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยขนาดของมาตรการกระตุ้น ทำให้ยังต้องรอรายละเอียดเพิ่มเติมจากการประชุมสภานิติบัญญัติในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อ (CPI) ยังค่อนข้างอ่อนแอโดยออกมาที่ +0.4% YoY ต่ำกว่าคาดที่ +0.6% YoY ในขณะเดียวกันการส่งออก +2.4% YoY ต่ำกว่าคาดที่ +6% YoY

6.   OPEC ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันโลกในปี 2024 และ 2025 ลงเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยคาดว่าความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 1.93 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2024 ลดลงจาก 2.03 ล้านบาร์เรลที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับลดคาดการณ์การเติบโตของจีน เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด สำหรับปี 2025 OPEC ปรับลดคาดการณ์การเติบโตลงเหลือ 1.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 1.74 ล้านบาร์เรล

Daily pick

AAV: ราคาพื้นฐาน 3.22 บาท

ในช่วงสุดสัปดาห์ ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงหลังทางการจีนไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นใหม่รวมถึงการที่กลุ่ม OPEC ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการน้ำมันโลกปีนี้และปีหน้าลง ค่าเงินบาทที่กลับมาแข็งค่าเล็กน้อย รวมถึงการที่ภาครัฐเตรียมเข็นนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ “แอ่วเหนือคนละครึ่ง” เพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวภาคเหนือ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนเดิมที่มีการเพิ่มฝูงบินที่จะรองรับความต้องการในช่วง 4Q24 ที่เป็นไฮซีซั่น รวมถึงการเปิดเส้นทางการบินสำหรับอินเดียที่เป็นตลาดใหม่ เราจึงมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี แนะนำซื้อโดยมีราคาพื้นฐานที่ 3.22 บาท

BCH: ราคาพื้นฐาน 20.30 บาท

เราคาดว่าการประชุมระหว่างกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนในระบบประกันสังคม และสำนักงานประกันสังคมในสัปดาห์นี้จะมีแนวโน้มเชิงบวก หลังจากการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อทบทวนหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ในระบบประกันสังคม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 90 วัน เรามองว่ามีโอกาสสูงที่สำนักงานประกันสังคมจะปรับงบประมาณการรักษาโรคยาก (Adj.RW>2) จาก 746 บาทต่อคน ซึ่งไม่ได้มีการปรับมาตั้งแต่ปี 2017 การปรับนี้จะเป็นผลดีต่อโรงพยาบาล SSO และช่วยลดความเสี่ยงรายได้จากการรักษาโรคยาก (High cost care) ในอนาคต

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตามดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของโซนยุโรป (EU Industrial Production) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.30% MoM ต่อด้วยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของญีปุ่น (Japan Industrial Production) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -4.90% YoY และปิดท้ายด้วย ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์ก (Empire State Manufacturing Index) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.6 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 11.5 จุด
  • วันพุธ ติดตามการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50%
  • วันพฤหัสฯ ติดตามการประชุม ECB โดยตลาดคาดว่าจะปรับลดDeposit Facility Rate ลง 25 bps สู่ระดับ 3.25% ต่อด้วยการรายงานดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ (US Retail sales) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +0.1% MoM และจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.58 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนอย่าง ตัวเลขGDP ใน 3Q24 ตลาดคาดการณ์ที่ +4.5% YoY ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ +4.7% YoY ต่อด้วยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial  production) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +4.6% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +4.5%YoY และดัชนียอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.5% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +2.1% YoY
- Advertisement -