หลายสิ่งลง แต่คงไม่ใช่ดอกเบี้ยไทย / 1,450-1,470
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- SET ร่วงหล่นสู่แดนลบ: คาดแรงกดดันมาจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงแรงกดดันจากการประชุมกนง. หากแต่ถูกบรรเทาลงด้วยความหวังต่อมาตรการภาครัฐทั้งนี้ คาดหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 4.4% ปิดที่ $70.58 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความคลายกังวลอุปทานน้ำมันหลังวอชิงตันโพสต์รายงานว่านายกฯ อิสราเอล ได้แจ้งต่อปธน.สหรัฐฯ ว่า อิสราเอลมีแผนถล่มเป้าหมายทางการทหารในอิหร่าน โดยจะไม่โจมตีแหล่งน้ำมันหรือโรงงานนิวเคลียร์ คอปรกับ IEA ระบุว่าขณะนี้อุปทานน้ำมันยังคงเป็นปกติ และหากไม่มีปัญหาจนทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ ตลาดจะผชิญกับภาวะน้ำมันลันตลาดจำนวนมากในปีหน้า ขณะที่หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มได้รับ Sentiment ทางลบ ตาม Philadelphia Semiconductor Index ที่ปรับตัวลง 5.28% ท่ามกลางความกังวลด้านอุปสงค์และความขัดแย้งทางการค้า หลัง 1) มีข่าวออกมาว่า ASML ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายปี 2568 และ 2) รัฐบาลสหรัฐฯกำลังพิจารณาที่จะควบคุมการส่งออกซิป AI ของบริษัทสหรัฐฯ นอกจากนี้คาด SET Index จะถูกกดดันจากการประชุมกนง.ในวันนี้ ซึ่งทางฝ่ายมองว่ากนง.มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% จากศก.ไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ตามที่กนง.ประเมินไว้ อัตราเงินฟ้อที่มีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ในช่วงปลายปีนี้ รวมถึงมุมมองของกนง.ที่มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยช่วยลดภาระหนี้ในระยะสั้นแต่ส่งผลให้ยอดหนี้คงค้างเพิ่มขึ้นระยะยาว และหนี้ที่อยู่ในระดับสูงจะฉุดรั้งการเติบโตศก.ในระยะยาว ทั้งนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยงคงอยู่ในระดับสูงจะเป็นแรงกดดันต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและต้นทุนของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม คาดทางลงถูกลดทอนลงจากความหวังต่อมาตรการภาครัฐ โดยวันนี้นายกฯจะเป็นปธ.เปิดโครงการฟื้นฟูศก. ซึ่งจะมีการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรายใหญ่ เพื่อช่วยลดรายจ่ายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้แค่ประชาชน
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) เกิงงบ 3Q67: BEM, CK, CPF, KBANK, KKP, KTB, WHA 2) Defensive: BCH, BDMS, BH, CHG 3) ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง: AAV, CPAXT, CPN, OR, TRUE และ 4) วายุภักษ์: ADVANC, BBL, GULF, INTUCH
ปัจจัยบวก
- ก.ท่องเที่ยวฯเผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-13 ต.ค.67 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแล้วทั้งสิ้น 27.2 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แล้วประมาณ 1.27 ล้านลบ.
- นายกฯ มีข้อสั่งการให้ก.ท่องเที่ยวฯ และกทท.ดำเนินโครงการ Thailand Music Campaign เพื่อสนับสนุนปีแห่งการท่องเที่ยวในปี 2568 ที่ต้องการให้ประชาศชายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวระดับโลก โดยนำเรื่องของศิลปวัฒนธรรม และดนตรี มาเป็นแรงดึงดูด
- นายกฯแถลงภายหลังประชุมครม.ว่า ได้มอบหมายให้ค.คมนาคม และค.คลัง ร่วมกันศึกษาแนวทางการดำเนินมาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน
- BofA เผยผลสำรวจผู้จัดการกองทุนบ่งชี้ว่าความเชื่อมันของนักลงทุนทั่วโลกในเดือนต.ค.67 เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.63 เนื่องมาจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟต รวมถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นศก.จากจีน และแนวโน้มการชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปของศก.สหรัฐฯ
ปัจจัยลบ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าผลกระทบจากน้ำท่วมที่เคิดขึ้นอาจคิดเป็นมูลค่าทางศก.ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นลบ. หรือ 0.16% ของ GDP ประเทศ และผลกระทบในกรณีเลวร้ายอาจมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นลบ. หรือ 0.27% ของ GDP ประเทศ
- บลูมเบิร์ครายงานว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงฟิลิปปินส์เวียดนาม ไทย และสิงคโปร์ ยังอาจต้องเผชิญกับฝนที่ตกหนักกว่าปกติในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมในภูมิภาคที่เพิ่งโดนพายุกล่มหนักไปหลายลูกแล้วในปีนี้
- นักวิเคราะห์ในการสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าศก.จีนน่าจะโตเพียง 4.8% ในปี 2567 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ประมาณ 5% และอาจชะลอตัวลงเหลือ 4.5% ในปี 2568
- IMF เผยหนี้สาธารณะทั่วโลคกำลังจะทะลุ 100 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปีนี้ และอาจพุ่งสูงขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากกระแสการเมืองที่สนับสนุนการใช้จ่ายของภาครัฐมากขึ้น ประกอบกับศก.ที่ฝืดเคือง ส่งผลให้รัฐบาลต้องกู้ยืมมากขึ้นและแบกรับต้นทุนที่สูงลิ่ว
PICKS OF THE DAY
GULF BUY
- เป้าหมาย 67.00 / 69.50 แนวรับ 62.50
- คืบหน้าประมูลโครงการใหม่ : จากที่กกพ. ได้ประกาศเกี่ยวกับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนล่าสุดประมาณ 2,180 MW บริษัทคาดว่าจะได้รับโครงการไม่น้อยกว่า 20% ของที่เปิดรับ ซึ่งจะเป็น Upside หนุนผลประกอบการในอนาคต เช่นเดียวกับ Sentiment บวกจากการควบรวมกับ INTUCH เป็นบริษัทใหม่ที่จะมีธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้นทั้งธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจดิจิตัล
- ปัจจัยหนุนภายนอกหนุน : เงินบาทแข็งค่ามาใกล้ระดับ 32-33 บาท จากระดับ 36 บาท ในช่วงไตรมาส 2/67 หนุนให้บริษัทมีโอกาสได้กำไรจาก FX นอกจากนี้ จากการที่ FED ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมรอบล่าสุด รวมถึงโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในรอบถัดไปและปีหน้า สะท้อนถึงดอกเบี้ยขาลงและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีแนวโน้มลดลง ทำให้หุ้นโรงไฟฟ้าน่าสนใจมากขึ้น ทั้งในแง่ต้นทุนทางการเงินและการประเมินมูลค่า
BCH BUY
- เป้าหมาย 19.60 / 20.00 แนวรับ 18.40
- คาด BCH รายได้เติบโต 4Q : ทางฝ่ายคาดการณ์รายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราค่าบริการ 3-5% ใน 3Qประกอบกับรายได้จากคนไข้ต่างชาติฟื้นตัวต่อเนื่องจากกลุ่ม UAE โอมาน กาตาร์และซาอุดิอาระเบีย และจากการขยายฐานคนไข้เข้าสู่กลุ่ม CLMV รวมถึงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บจ.บางกอก เชน เดนทัล”เพื่อดำเนินธุรกิจการให้บริการทันตกรรมเคลื่อนที่ โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มให้บริการใน 3Q เป็นต้นไป
- รอลุ้นผล กลุ่มรพ.เอกชน ยื่นขอปรับอัตราค่าบริการผู้ประกันตน: จากประเด็นสมาคมรพ.เอกชนหารือร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในกรณี สปส.ปรับลดค่ารักษาพยาบาลในกลุ่มโรคร้ายแรงที่มีค่าใช้จ่ายสูง และกลุ่มรพ.เอกชนยื่นขอปรับอัตราค่าบริการผู้ประกันตนในแต่ละหมวดให้เป็นปัจจุบัน โดยสปส.จัดตั้งคณะอนุกรรมการทบทวนประเด็นดังกล่าวแล้ว ทางฝ่ายคาดได้ข้อสรุปในช่วง 4Q67 นี้ อีกทั้งทางฝ่ายมีมุมมองเชิงบวกต่อ BCH เนื่องจากเป็นหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลที่มีโควตารับผู้ประกันตนเป็นจำนวนมาก