บล.กรุงศรีฯ: 

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index เพิ่มขึ้น 10.01 จุด (+0.67%) ปิดที่ระดับ 1,495 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 223 บริษัท, หุ้นปรับลง 276 บริษัท) SET Index ปรับขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี นักลงทุนสลับเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง โดย Sector ที่ปรับขึ้นเด่นในวันนี้ คือ กลุ่ม ICT (INTUCH, ADVANC, TRUE) และ กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) ส่วน Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่ม Conmat (SCC), กลุ่มส่งออกอาหาร (TU, ITC, AAI)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

  • GULF (+5.70%), INTUCH (+6.60%) เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์แนะนำซื้อเก็งกำไรคาดหวัง Synergy จากการรวมกิจการกับ INTUCH เป็นบริษัทใหม่ (NewCo) หนุน Balance sheet แกร่งขึ้น หนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 0.7-0.8 เท่า เพิ่มความสามารถในการก่อหนี้ได้มากกว่า 3 แสนล้านบาท เบื้องต้นคาดว่าจะนำไปใช้สำหรับโครงการลงทุนพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์, ลม และเขื่อนไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเป็น upside ต่อคาดการณ์กำไรสุทธิและราคาเป้าหมายของ GULF ในอนาคต (เบื้องต้นประเมินราคาเป้าหมายเมื่อรวม upside จากโครงการพลังงานหมุนเวียนดังกล่าวประมาณ 68-75 บาท), ส่วน INTUCH ราคาปรับขึ้นตาม Swap ratio ผสานกับนักลงทุนซื้อดักเงินปันผลพิเศษ 4.5 บาท และ เงินปันผลในรอบครึ่งปีหลังอีกประมาณ 2 บาท รวมเป็น 6.50 บาทให้ Dividend yield ประมาณ 5.75%
  • ADVANC (+3.48%), TRUE (+3.42%) พื้นฐานเด่น, ดอกเบี้ยลงหนุนกำไร นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น TRUE และ ADVANC ต่อเนื่องก่อน TRUE ประกาศงบ 3Q24 ในวันศุกร์หน้า (25 ต.ค. 24) คาดงบพลิกมีกำไรสุทธิ 2,388 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1,879 ล้านบาทใน 2Q24 และ 1,598 ล้านบาท ใน 3Q23 พลิกมีกำไรครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส นอกจากนี้นักลงทุนยังมองว่า TRUE จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงเนื่องจากเป็นบริษัทที่มีหนี้สูง ส่วน ADVANC จะประกาศงบ 1 พ.ย. 2024 คาดกำไรโตต่อเนื่อง qoq และ yoy แม้เป็น low season ของธุรกิจ ผสานกับจ่ายปันผลดีให้ dividend yield สูงจึงเป็นเป้าเข้าซื้อเมื่อดอกเบี้ยเป็นขาลงเช่นกัน เราแนะนำ ซื้อ ADVANC ราคาเป้าหมาย 300 บาท และ ซื้อ TRUE ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท
  • TOP (-2.06%) เช้าวันนี้นักวิเคราะห์ของเราออกบทวิเคราะห์โทนเป็นลบ มี Overhang จากข่าวผู้รับเหมาช่วงก่อสร้างโครงการ CFP อาจรวมตัวเรียกร้องค่าแรงในวันที่ 18 ต.ค. 2024 หลังผู้รับเหมาหลักค้างจ่ายค่าจ้าง ประเด็นนี้อาจทำให้แผน COD ของโครงการดังกล่าวล่าช้าออกไป เราประเมิน worst case หาก TOP ต้องเข้ามาแบกรับค่าแรงส่วนเพิ่ม 2-5 พันล้านบาท อาจกระทบ TP25F ราว 1-2 บาท/หุ้น (ทุกๆ 100 ล้านบาท กระทบกำไร 2025F -1%
- Advertisement -