(จากซ้ายไปขวา) เชา วง ยวน Chief Sustainability Officer ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO และ Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, เฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน, ริชาร์ด มาโลนี่ย์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย, ปาริชาติ ประมุขกุล รองประธานฝ่ายขาย ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และ บุษราภรณ์ กิตติ-นันทวรกุล ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มลูกค้าบริษัทระดับโลกและบริษัทระหว่างประเทศ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ประกาศเข้าร่วมโครงการ GoGreen Plus ของดีเอชแอล ซึ่งเป็นการสะท้อนความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างสองบริษัท โดยยูโอบีมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทางอ้อม (Scope 3) ที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงิน และผลักดันวาระการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธนาคารให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

ความร่วมมือนี้เปิดโอกาสให้ยูโอบีใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ในการขนส่งด่วนระหว่างประเทศทางอากาศผ่านบริการ GoGreen Plus ของดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินธุรกิจของธนาคาร

นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล กรรมการผู้จัดการ Deputy CEO และ Wholesale Banking ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือกับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารต่อความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมากกว่าขอบเขตการดำเนินงานโดยตรงของเรา การร่วมแก้ไขปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมนี้ ถือเป็นแนวทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ครอบคลุมในทุกด้านของธนาคาร ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050”

บริการ GoGreen Plus จะใช้กับการขนส่งทางอากาศระหว่างไทยและต่างประเทศ สำหรับเอกสารที่สำคัญและเร่งด่วน รวมถึงวัสดุของธนาคารและอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ยูโอบีลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินธุรกิจของธนาคารได้

นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย บริการ GoGreen Plus ของเราถือแนวทางที่เป็นรูปธรรมให้บริษัทต่าง ๆ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งด้านโลจิสติกส์ และช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม”

ความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ความยั่งยืนแบบองค์รวมของยูโอบี ซึ่งมีเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามการประเมินปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งสามประเภท นอกจากความมุ่งมั่นของธนาคารยูโอบีในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงินเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แล้ว ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยังตระหนักถึงความสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการเงิน ซึ่งรวมถึงโลจิสติกส์ในห่วงโซ่อุปทาน

การนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินงานของธนาคาร และการร่วมมือกับพันธมิตรอย่างดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ถือเป็นการดำเนินการเชิงรุกของธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ในการตอบสนองต่อเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ความร่วมมือนี้ยังมีส่วนช่วยในการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมของธนาคาร และสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งสอดคล้องกับความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีนี้ ยูโอบี และดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ได้ร่วมลงนามในข้อตกลง GoGreen Plus ในระดับภูมิภาคเพื่อร่วมลงทุนในเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืนสำหรับการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศของยูโอบี คาดการณ์ว่าการเข้าร่วมโครงการนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 200 ตันของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี

ธนาคารยูโอบี เป็นธนาคารชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์และมีการดำเนินธุรกิจในจีน อินโดนิเซีย มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม อีกทั้งยังมีเครือข่ายระดับโลกที่ประกอบด้วยสำนักงานประมาณ 500 แห่ง ใน 19 ประเทศและเขตการปกครอง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ 2478 ธนาคารยูโอบีได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านการควบรวมกิจการที่สำคัญ ปัจจุบันธนาคารยูโอบีได้รับการจัดลำดับให้เป็นธนาคารที่มีความแข็งแกร่งในระดับสากลจากบริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือระดับโลก ได้แก่ Aa1 โดย มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส และ AA- โดย ฟิทช์ เรทติงส์ และเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์

ตลอดระยะเวลาเกือบ 9 ทศวรรษ  ธนาคารยูโอบีดำเนินธุรกิจโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างคุณค่าให้แก่ธุรกิจในระยะยาวโดยการปรับกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคผ่านพลังงานแห่งความสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ยูโอบีพร้อมที่จะพัฒนาอนาคตของภูมิภาคอาเซียนในเติบโต ทั้งประชากรและธุรกิจให้มีความเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงในภูมิภาค

เรายังมีส่วนในการเชื่อมต่อโอกาสทางธุรกิจภายในภูมิภาคนี้ ผ่านเครือข่ายทางการเงินที่แข็งแกร่ง เรามีการจัดทำฐานข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกสำหรับพัฒนาและนำเสนอประสบการณ์ทางการเงินส่วนบุคคล และบริการทางการเงินที่เหมาะสมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลง ยูโอบีมีความมุ่งมันที่จะสร้างความยั่งยื่นในการดำเนินธุรกิจให้แก่ลูกค้า ผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม สร้างผลกระทบที่ดีต่อสื่งแวดล้อม พร้อมไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจ ธนาคารเชื่อมั่นในการเป็นผู้บริการทางการเงินที่มีความรับผิดชอบ พร้อมทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมด้านศิลปะ เยาวชน และ การศึกษา

เกี่ยวกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย

ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีเครือข่ายทั่วประเทศ 147 สาขา และเครื่องเบิกเงินสดอัตโนมัติ 343 เครื่อง (ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566) โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำ ได้แก่ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (อันดับความน่าเชื่อถือเงินฝากระยะยาวที่ A3) และฟิทช์ เรทติ้งส์ (อันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาวที่ A- และความน่าเชื่อถือภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha))

- Advertisement -