บล.กรุงศรีฯ: 

เก่งหลังเกมส์ 

SET Index ปรับลง -14.25 จุด (-0.96%) ปิดที่ระดับ 1,467.42 จุด ส่วน มูลค่าการซื้อขาย 5.72 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับตลาดห้นในภูมิภาคเอเซียที่ปรับลง หลังจากผลการเลือกตั้งสหรัฐ โดนัล ทรัมป์ได้รับคะแนนนำและจะเป็นประธานาธิบดีท่านใหม่ ซึ่งแนวคิดนโยบายเน้น American First เน้นกีดกันการค้า ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเอเซีย   (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 111 บริษัท, หุ้นปรับลง 418 บริษัท)  หุ้นกลุ่มที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) ส่วน Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (GULF, PTT, PTTEP) กลุ่ม Commerce (CPAXT, CPALL) และกลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH)

หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ

THANI -11.73%

หุ้นปรับลงตอบรับ กำไรสุทธิ 3Q24 ที่ 80 ลบ. ต่ำกว่าเราคาดมาก เพราะ ค่าใช้จ่ายด้อยค่ารถยึดและค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) สูงกว่าคาด  กำไรลดลง -68% y-y และ  -69% q-q เราปรับ TP25F เป็น 1.5 เดิม 1.7 บ. แต่คงคำแนะนำ REDUCE เพราะตลาดเช่าซื้อรถบรรทุกยังมีปัญหาเรื่องคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ และมีความเสี่ยงเรื่องการเข้ามาของทุนจีน ทำให้เราคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) และ NPL Ratio ยังคงระดับสูง ส่งผลต่อการเติบโตของสินเชื่อรวม 

DELTA +4.71% , KCE +4.14%

หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ปรับขึ้นแรงรับคาดการณ์ Demand การส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จะเพิ่มขึ้น  อานิสงค์จากผลของโอกาสที่มาตรการกีดกันการค้าที่สหรัฐจะมีกับจีนจะเข้มงวดเพิ่มขึ้น  หลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

STA +1.95%

หุ้นกลุ่มถุงมือยางปรับขึ้นจากมุมมองเชิงบวกจากคาดการณ์แนวโน้มยอดส่งออกถุงมือยาง และยางจะเพิ่มขึ้น  (จากนโยบายกีดกันการค้าที่จะเข้มงวดขึ้นของสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าถุงมือยางจากจีน) 

JTS +3.94% 

หุ้นกลุ่มอิง  crypto currency มี sentiment บวกจากราคา Bitcoin ทำราคา All time high ทะลุเหนือ 75,000 ดอลลาร์ หลัง Donald Trump ชนะการเลือกตั้ง(ทรัมป์มีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรม crypto currency )

GULF -2.64% , GPSC -1.74%

หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลงรับเงินบาทที่อ่อนค่าแรงวันนี้  โดยล่าสุดอยู่ที่ 34.14 บาท ต่อดอลลาร์ จากราคาในตอนเช้าที่ 33.55 บาทต่อดอลลาร์ 

- Advertisement -