‘ทริพเพิล ไอ’ โชว์ตัวเลขไตรมาส 3/67 ทำรายได้ 639 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% Q4 ปัจจัยบวกเพียบทั้งธุรกิจเข้าสู่ Peak Season ลุยบริการใหม่ Multimodal HUB – ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ย้ายฐานการบินมาดอนเมือง หนุนโตต่อเนื่อง
‘บมจ.ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์’ หรือ III เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 รายได้รวม 639.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย 4 กลุ่มธุรกิจหลักเติบโตต่อเนื่อง 4 ไตรมาส ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 101.9 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนลดลง รวม 9 เดือนแรกของปี ทำรายได้ 1,677.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 321.3 ล้านบาท ไตรมาสสุดท้ายรับปัจจัยบวกเพียบทั้งเข้าสู่ Peak Season พร้อมผสาน ANI ตามยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond เปิดบริการใหม่ “Multimodal HUB” ศูนย์กลางกระจายสินค้าทางอากาศในภูมิภาค การย้ายฐานการบินของไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จากสนามบินสุวรรณภูมิมายังดอนเมืองหนุนเติบโต และ AOTGA ที่คาดว่าผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้
นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 639.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 398.2 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่ 4 กลุ่มธุรกิจหลักเติบโตได้ดีต่อเนื่อง 4 ไตรมาส โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่เราพัฒนาการบริการได้ตอบโจทย์ความต้องการ รวมถึงได้รับประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศทั้งการส่งออกและนำเข้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศปรับเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ช่วง High Season ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 101.9 ล้านบาท ชะลอตัว 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงจาก ANI เนื่องจากผลกระทบของเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามคาดว่าผลการดำเนินงานของ ANI จะเติบโตได้ดีในไตรมาส 4 จากความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เพิ่มขึ้นและสถานการณ์เงินบาทที่เริ่มมีทิศทางอ่อนค่า รวมถึงแผนการบริหารอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,677.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 1,276.5 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิ 321.3 ล้านบาท ชะลอตัวลง 30.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนที่ลดลง
นายทิพย์ กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยบวกจากภาพรวมการค้าระหว่างประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงธุรกิจที่เข้าสู่ High Season ส่งผลให้ค่าระวางและปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดของปีนี้ และที่สำคัญ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond โดยการ Synergy ระหว่างบริษัทในกลุ่ม ที่ได้ดำเนินการไปในช่วงไตรมาสที่ 3 จะเริ่มทยอยส่งผลชัดเจนในไตรมาส 4 นี้ ได้แก่ (1.) การขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในรูปแบบ Multimodal Transportation สำหรับสินค้า e-Commerce ของธุรกิจรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบขายส่ง โดยการผสานความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และพันธมิตร (2.) การย้ายฐานการให้บริการของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จากสนามบินสุวรรณภูมิมายังสนามบินดอนเมือง คาดว่าจะทำให้ปริมาณการให้บริการภาคพื้นสนามบินและสินค้าผ่านคลังภายในสนามบินดอนเมืองเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีทั้งต่อบริษัทฯ เอง และต่อบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOTGA) (3.) การเจรจากับสายการบินพันธมิตรเพื่อเพิ่มพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางอากาศ รองรับความต้องการขนส่งสินค้าที่หนาแน่นในช่วง High Season และ (4.) ขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศเชื่อมต่อ 3 สนามบินหลักของประเทศด้วยรถบรรทุก (Airport Truck Link) ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต โดยผสานความร่วมมือกับ AOTGA
สำหรับ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่บริษัทฯ ลงทุนผ่านบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ SAL ได้เพิ่มอุปกรณ์ เครื่องจักร และบุคลากรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีความพร้อมในการรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่หนาแน่นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ รวมถึงการที่ AOTGA ได้เปิดให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Warehouse) ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา บนพื้นที่เกือบ 5,000 ตารางเมตร ของศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า (โซน 3) ในเขตปลอดอากรของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบันมีอัตราการใช้พื้นที่แล้วกว่า 60% และ AOTGA ยังเตรียมยื่นประมูลการคัดเลือกผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมนี้ ขณะที่บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในภูมิภาค จะได้รับปัจจัยบวกจากการเข้าสู่ Peak season ในไตรมาสสุดท้าย
“เราคาดว่ารายได้ในไตรมาส 4/2567 มีแนวโน้มที่จะเติบโตทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เราเองมีความแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกมาหนุนจากการเข้าสู่ช่วง Peak season จะส่งผลให้การเติบโตของผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายและปี 2567 เป็นไปตามเป้าหมาย” นายทิพย์กล่าว