JMART ตามนัด! ผลงาน 9 เดือนแรกกำไรพีค 831 ลบ. โอกาสทองซื้อหนี้ พร้อมลุยธุรกิจจำหน่ายมือถือ – สินเชื่อ Locked Phone หนุน
JMART มาตามนัด! โชว์งบ Q3/67 กำไรเป็นบวกต่อเนื่อง 5 ไตรมาสติด พลิกฟื้นเทิร์นอะราวด์ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ทำกำไรกว่า 255 ล้านบาท หนุน 9 เดือนแรกปีนี้ กำไรพุ่งอยู่ที่ 831 ล้านบาท โต 236% มอง Q4/67 ธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี จับมือกันโต รับไฮซีซั่นซื้อหนี้และธุรกิจจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีพีค ขณะที่ สุกี้ตี๋น้อยกวาดกำไรแรง
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ มีพัฒนาการที่ดี ธุรกิจในกลุ่มสามารถสร้างการเติบโต และผนึกกำลัง Synergy ร่วมกัน โดย SGC สามารถสร้างธุรกิจใหม่ “Locked Phone” เปลี่ยนเกมการปล่อยสินเชื่อแบบเดิมๆ ทำให้กลุ่มบริษัทสามารถขยายธุรกิจแบบสเกลได้ ภายใต้ความเสี่ยงที่รัดกุม ด้านภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้ JMT ยังคงแข็งแกร่ง เป็นบริษัทเรือธงที่ส่งกำไรมาให้ JMART มากที่สุด เรามองว่าจากนี้ไป จะเดินหน้านำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน โฟกัส Commerce Tech และ FinTech ตั้งเป้ากำไรปี 2568 เติบโตประมาณร้อยละ 30
ในด้านความสำเร็จของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 255 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.8 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 เท่ากับ 830.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,443.8 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 235.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า เนื่องจากในไตรมาส 1 และ 2 ปี 2566 มีรายการผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น และไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม สะท้อนการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER และ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ที่ไม่มีการตั้งสำรองก้อนใหญ่แล้ว ขณะที่ ธุรกิจใหม่สินเชื่อ Locked Phone เดินหน้าเติบโตตามนัด ในด้านรายได้รวมประจำไตรมาส 3 ปี 2567 เท่ากับ 3,428.8 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย ในอัตราร้อยละ 2.8 สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2567 เท่ากับ 10,285.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ภาพรวม Ecosystem ที่แข็งแกร่งของกลุ่มบริษัท ทั้งในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี สนับสนุนผลการดำเนินงานที่ประกาศออกมา กำไรสุทธิพลิกกลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง 5 ไตรมาส โดยเฉพาะการฟื้นตัวที่ดีของธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ โดยในไตรมาส 3 ปีนี้ บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT มีแนวโน้มการเติบโตของผลกำไรที่ดี หรือเติบโตร้อยละ 17.2 จากจุดต่ำสุดของ JMT ในไตรมาส 2/2567 เนื่องจากธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และการจัดเก็บกระแสเงินสดปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ทิศทางและแนวโน้มของ ECL ปรับลดลง มองแนวโน้มไตรมาส 4/2567 ธุรกิจบริหารหนี้เป็นโอกาสทองในการซื้อหนี้เข้ามาบริหารต่อเนื่อง อีกทั้ง ธุรกิจดาวรุ่งดวงใหม่ “สุกี้ ตี๋น้อย” ยังคงเป็นบริษัทที่ส่งกำไรกลับมาให้ JMART ต่อเนื่อง กำไรสุทธิทำได้ 916 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 35% จากการบริหารจัดการต้นทุน และการขยายสาขาได้ตามเป้า โดยปัจจุบันมี 76 สาขา และมีแผนเปิดอีก 3 สาขา ครบ 79 สาขาในสิ้นปีนี้ โดยมุ่งเน้นขยายไปในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น อาทิ เตรียมเปิดที่ขอนแก่น เชียงใหม่ และอยุธยา มองไตรมาส 4/67 ไฮซีซั่น คาดมาร์จิ้นดีขึ้น รวมทั้ง เริ่มขยายไปยังกลุ่มปิ้งย่างภายใต้แบรนด์ TEENOI BBQ
ธุรกิจจัดจำหน่ายมือถือและสินค้าเทคโนโลยี แม้ไตรมาส 3 ปีนี้ ปรับลดลง แต่มองกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น สินค้ามือถือจะเปิดตัวรุ่นใหม่ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1/2568 รวมถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการเติบโตของสินเชื่อ Locked Phone ทั้งในส่วนของ Samsung Finance+ และ SG Finance+ หนุนภาพรวมไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่บริษัทฯ มียอดขายมือถือสูงที่สุดในปี 2567 พร้อมด้วยบริการผ่อนสินเชื่อและประกัน ครบวงจร นำ J Point Adoption จับจ่ายใช้สอยที่ร้านเจมาร์ทโมบาย เจาะการขายและการตลาดบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ สร้างการเติบโตเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มีประสิทธิภาพ
ในด้าน บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการเปิดตัว Community Mall แห่งใหม่ 2 แห่ง ที่ JAS Green Village สาขาประเวศ และสาขารามคำแหง ได้พื้นที่ขายในปีนี้เข้ามาประมาณ 15,000 ตารางเมตร เตรียมสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืนมากขึ้นในปีหน้า สนับสนุนศูนย์การค้าชุมชนภายใต้การบริหารของบริษัทฯ มีจำนวน 8 แห่ง และมีพื้นที่โครงการรวมเกือบ 100,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ วางแผนพัฒนาปรับปรุงพื้นที่รีเทลสเปซในสาขาเดิมให้มีศักยภาพมากขึ้น ผลักดันรายได้ต่อตารางเมตรดีขึ้น พร้อมกางแผนปี 68 ลุยเปิดสาขาใหม่ใจกลางเมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นที่ดินของบริษัทเอง ในรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส โรงแรมและห้าง เตรียมเปิดให้บริการไตรมาส 3 ปีหน้า และอยู่ระหว่างศึกษาการเปิด Community mall ขนาดเล็กเพื่อเข้าถึงแหล่งชุมชนมากขึ้น สนับสนุนการรับรู้รายได้ในอนาคต
และไฮไลท์ที่สำคัญของบริษัทร่วม ในบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมามีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 102.4 และพัฒนาการที่โดดเด่นของ SGC (บริษัทย่อยของ SINGER) ได้ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจใหม่ ชูสินเชื่อ SG Finance+ ภายใต้แคมเปญ Locked Phone ทำได้ดีกว่าคาดการณ์ไว้ และมี NPL ในระดับต่ำ สะท้อนโอกาสเติบโตภายใต้การควบคุมความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม