ลุ้นครม.ช่วย SET ด้วย / 1,445-1,465

SET แกว่งตัวข้างๆ : แรงกดดันจากการไหลออกของ Fund flow ไปสู่ตลาด/สินทรัพย์ที่มีความน่าจูงใจกว่า และแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง อย่างไรก็ตาม มองทางลงจำกัด โดยคาดได้แรงหนุนจากการประชุมครม.ในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุน

  1. ท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง: AAV, AU, ADVANC, AOT, BTS, CPAXT, ERW, KTC, MINT, NSL, TACC, TRUE
  2. หวังมาตรการภาครัฐ: CRC, DOHOME, GLOBAL, HMPRO, ILM
  3. เก็งงบ 3Q67: BEM, CPF
  4. Bitcoin: BTC, JTS, TTA
  5. Selective: COM7, DELTA, MOSHI, KTB, SIS, TASCO

ควันหลงหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ ดึง Fund flow ออก: คาด SET Index ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจาก Fund flow ซึ่งวันนี้อาจเห็นนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันทำการที่ 5 ติดต่อกัน เพื่อไปสู่ตลาด/สินทรัพย์ที่มีความน่าจูงใจกว่า เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีแนวโน้มขานรับชัยชนะของคุณทรัมป์ในการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ สอดรับกับ 1) Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ที่ต่างปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางนโยบายของคุณทรัมป์ที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ และ 2) Bitcoin ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และเข้าใกล้ระดับ $90,000 ท่ามกลางความหวังว่า คุณทรัมป์จะผ่อนคลายกฎระเบียบในการควบคุมคริปโทเคอร์เรนซี

ราคาน้ำมันดิบลง กังวลเศรษฐกิจจีน: คาด SET Index โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง 3.32% ปิดที่ $68.04 ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความกังวลภาวะเงินฝืดในจีน หลัง CPI เดือนก.ย.67 บ่งชี้ถึงการขยายตัว (y-y) อย่างชะลอลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และ PPI ยังคงหดตัว (y-y) ต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนต.ค.65 กอปรกับนักลงทุนมองว่ามาตรการทางเศรษฐกิจของจีนยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ลุ้นครม.เคาะวันหยุดและความคืบหน้ามาตรการอสังหาฯ: อย่างไรก็ตาม มองทางลงจำกัด โดยคาด SET Index จะได้แรงหนุนจากการประชุมครม.ในวันนี้ โดยมีวาระที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) การเสนอการกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษประจำปี 68 และ 69 และภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี 68 โดยการประกาศวันหยุดเพิ่มเติมใน 1-2 ปีข้างหน้าจะช่วยให้ประชาชนมีการการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งการท่องเที่ยวจะ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และ 2) การเสนอการแยกบัญชีมาตรการสินเชื่อซื้อ-สร้าง และซ่อม-แต่ง เพื่อรองรับมาตรการซอฟต์โลน มาตรการซ่อม-แต่ง วงเงิน 5 พันล้านบาท สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปี ที่จะเข้าสู่การประชุมครม. นอกจากนี้ ติดตามความคืบหน้าค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ซึ่งอาจทันเป็นของขวัญปีใหม่ 68 หลังรมว.แรงงานคาดเสนอชื่อกรรมการค่าจ้างเข้าครม.ได้ในวันนี้

ปัจจัยเพิ่มเติม

(+) ททท.คาดว่าช่วงเทศกาลลอยกระทงปี 67 จะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยประมาณ 1.99 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 9% และก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 6,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 %

(+) รมว.เกษตรฯเผยไทยกับอิตาลีเตรียมทำ MOU จับมือด้านการเกษตร เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรครอบคลุมการผลิต การค้า และการลงทุน

(-) จีนจ่อเกินดุลการค้าแตะระดับสูงสุดใหม่ในปี 67 และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการตอบโต้จากปร.ทรัมป์ ตามการคำนวณของ Bloomberg ความแตกต่างระหว่างการส่งออกและการนำเข้าของจีนมีแนวโน้มที่จะสูงถึงเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หากยังคงขยายตัวในอัตราเดียวกับที่เป็นมาในปี 67

(-) สำนักงานปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนเผยว่าเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในจีนลดลง 8.1 พันล้านดอลลาร์ใน 3Q67 ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทต่างชาติบางส่วนยังคงมีมุมมองที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจจีน

PICKS OF THE DAY

MINT BUY
  • เป้าหมาย 27.00 / 27.50 แนวรับ 26.00
  • คาดงบ 3Q67 โต y-y : ทางฝ่ายคาด3Q67 มีกำไรเพิ่มขึ้น y-y จากการเพิ่มขึ้นของรายได้โรงแรมในทวีปยุโรปเป็นหลัก ตามปัจจัยฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อนของทวีปยุโรป และแนวโน้มจำนวนเที่ยวบินที่ปรับเพิ่มขึ้น
  • รายได้ธุรกิจโรงแรม 4Q67 สดใส : ทางฝ่ายคาดรายได้จากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น y-y จากการได้รับปัจจัยบวกในช่วง high season โดยรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย สะสม 10 เดือนแรกของปี 67 ราว 28 ล้านคน ขยายตัว 29.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยนักท่องเที่ยวชาวจีน มาเลเซียและอินเดีย ตามลำดับ และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินขาเข้าในประเทศ
KTB BUY
  • เป้าหมาย 21.50 / 22.00 แนวรับ 20.80
  • ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่าง ๆ ของรัฐ: KTB เป็นธนาคารที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล และมักจะถูกใช้เป็นตัวกลางในการส่งผ่านนยายการเงินไปสู่ระบบเศรษฐกิจ ทำให้มองว่าจะเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากโครงการลงทุนต่าง ๆ ของรัฐมากที่สุด และเป็นธนาคารที่มีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อภาครัฐมากที่สุด โดยสินเชื่อภาครัฐนั้นถึงแม้ว่าจะให้ผลตอบแทนที่ต่ำ แต่ก็เป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำด้วย
  • ปันผลน่าสนใจ: โดยปี 67 คาดว่าจะมีการจ่ายปันผล 1.07 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 5.1% และเป็นธนาคารที่ยังไม่ได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลออกมา

 

 

 

- Advertisement -