“MPJ” ของจริง โชว์กำไรสุทธิ 9 เดือน 69 ล้านบาท เติบโต 19% กำไรไตรมาส 3 โต 13% รายได้ 2 ธุรกิจใหม่โตแรง เฟรทโต 172% คลังสินค้าพุ่ง 760% ส่วนลานตู้โตเพิ่ม 7% ยืนยันผู้ถือหุ้นเดิมกอดหุ้นแน่น ครบทั้ง 100% ไม่มีขายออก
บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ เผยรายได้และกำไรงวด 9 เดือนและไตรมาส 3 เติบโตแข็งแกร่งยกแผง โดยธุรกิจขายระวางเรือเป็นพระเอก รายได้เพิ่มถึง 172% จากการขยายฐานลูกค้า ส่วนกำไรสุทธิเติบโตตามแผน 19% ยืนยันผู้ถือหุ้นเดิมกอดหุ้นแน่นทั้ง 100% มั่นใจพื้นฐานแกร่ง เติบโตต่อเนื่อง
นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและเป็นผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ กล่าวว่า “ ในงวด 9 เดือนปีนี้ MPJ มีรายได้รวม 745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 % จากรายได้รวม 665 ล้านบาทในงวด 9 เดือนปีก่อน และ มีกำไรสุทธิ 69.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.70% จากกำไรสุทธิ 58.25 ล้านบาท ในงวด 9 เดือนปีก่อน เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์ของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีตามเป้าหมาย
ในไตรมาส 3 ปีนี้ MPJ มีรายได้รวม 288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากรายได้รวม 237 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23 % จากรายได้รวม 234 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปีนี้ และมีกำไรสุทธิ 30.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาส 3 ปีก่อน และ เพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาส 2 ปีนี้ โดยในไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ 43% มาจากธุรกิจขนส่งทางบกตู้คอนเทนเนอร์, 28% มาจากธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์, 26% มาจากธุรกิจเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์ และ 3% มาจากธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า ทั้งนี้ 2 ธุรกิจหลักยังมีรายได้ที่มั่นคง แม้ธุรกิจขนส่งทางบกตู้คอนเทนเนอร์จะลดลง 7% โดยธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์เติบโต 7% ขณะเดียวกัน ด้านรายได้จากธุรกิจเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์เติบโตสูงถึง 172% เนื่องจากบริษัทได้ขยายแผนกการ ตลาด พร้อมทั้งขยายเส้นทางการให้บริการ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากปัจจัยฤดูกาล นอกจากนี้ ธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าเติบโตสูงถึง 760% จากฐานเดิมที่มีขนาดเล็ก เนื่องจากการเริ่มรับรู้รายได้ค่าเช่าคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่จังหวัดระยองเป็นไตรมาสแรก
“บริษัทฯ ยืนยันว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมที่มีหุ้นที่ไม่ติดไซเลนท์ ยังถือหุ้น MPJ เต็มจำนวนเท่ากับช่วงก่อนหุ้นเข้าซื้อขาย โดยไม่มีการขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด เนื่องจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมมีความมั่นใจในพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และ ศักยภาพในการขยายฐานรายได้และกำไรสุทธิของบริษัท โดยบริษัทฯมีแผนจะขยายธุรกิจด้วยการเปิดลานตู้คอนเทนเนอร์แห่งที่ 3 ที่กรุงเทพมหานครในปีหน้า และ ลงทุนสร้างคลัง สินค้าให้เช่าแห่งใหม่ที่ย่านศรีราชาและจังหวัดระยอง เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
และเมื่อต้นตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท เอ็ม พี เจ ดีสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด หรือ MPJDC บริษัทในเครือ ของ MPJ ได้ร่วมลงนามต่อสัญญากิจการร่วมค้าระหว่าง บริษัท โอโอซีแอล โลจิสติคส์ (ฮ่องกง) จำกัด และ บริษัท โอโอซีแอล โลจิสติคส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ OOCL โดยมีบริษัท โอเอ็ม ดีโพ จำกัด หรือ OM เป็นบริษัทร่วมทุน ประกอบธุรกิจให้บริการลานตู้คอนเทนเนอร์ (Container) รวมทั้งรับซ่อมแซม และทำความ สะอาดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อให้พร้อมนำไปใช้งานสำหรับสายการเดินเรือ OOCL โดยมี MPJDC เป็นผู้บริหาร จัดการการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งการขยายสัญญา JV นี้จะช่วยทำให้ปริมาณธุรกิจมีความมั่นคงสูงและมีโอกาสที่จะขยายตัวอย่างมั่นคง” นายจิระศักดิ์กล่าว
MPJ เป็นบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ครบวงจร และมีประสบการณ์กว่า 16 ปี และมีธุรกิจหลักคือ การให้บริการ ลานตู้คอนเทนเนอร์ และ การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือ แหลมฉบัง เชื่อมโยง การขนส่ง ทางบก และการให้บริการโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (Freight Forwarder) อีกทั้งยังมีธุรกิจใหม่ คือ คลังสินค้าให้เช่าในย่าน EEC ที่สร้าง รายได้ที่มั่นคงและผลตอบแทนที่ดี
เกี่ยวกับ บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ
MPJ มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้น ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรแบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1) ธุรกิจให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับทางเรือ ด้วยรถบรรทุกหัวลาก 237 คันและหางพ่วง 268 คัน ซึ่งเป็นฟลีทใหญ่ แห่งหนึ่งในเขต โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เน้นเส้นทางระหว่าง ท่าเรือแหลมฉบังและ ICD ลาดกระบัง (สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง)
2) ธุรกิจบริหารจัดการลานตู้คอนเทนเนอร์และซ่อมแซมตู้คอนเทนเนอร์ของผู้ให้บริการสายเรือ มีลานตู้ คอนเทนเนอร์ 2 แห่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือ แหลมฉบัง ภายใต้บริษัท เอ็ม พี เจ ดีสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด (MPJDC) และบริษัท โอเอ็ม ดีโพ จำกัด (OM) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับ OOCL Logistics (Hong Kong) Limited ผู้ให้บริการสายเรือ OOCL และ COSCO เพื่อการบริหารการจัดเก็บและดูแลตู้คอนเทนเนอร์ของกลุ่ม OOCL เป็นหลัก
3) ธุรกิจบริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) จัดหาระวางเรือและเครื่องบิน
4) ธุรกิจคลังสินค้า บริการให้เช่าคลังสินค้า ขนาด 4,900 ตารางเมตร ในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และขนาด 12,463 ตารางเมตร ในพื้นที่ จังหวัดระยอง โดยได้ทำการส่งมอบเมื่อไตรมาส 2 ปี 2567