KS Daily View 13.11.2024 >>> บาทยังอ่อนค่าหนัก วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) คาดกรอบ SET 1,430-1,455 แนะนำ MTC, TASCO
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบหกวันทำการ หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงก่อนการเลือกตั้ง โดยดัชนีหลักต่างๆ ได้ปรับลดลงเมื่อคืนนี้ได้แก่ Dow Jones ลดลง 0.86%, S&P 500 ลดลง 0.29%, Nasdaq Composite ลดลง 0.09% และ Russell 2000 ลดลงมากที่สุดที่ 1.77% โดยตลาดเริ่มให้น้ำหนักกับปัจจัยลบอย่าง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จนแตะระดับ 4.43% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจลดความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง นอกจากนี้ตลาดยังมีความระมัดระวังก่อนการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ในช่วงค่ำวันนี้
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,445.07 จุด ปรับลง 11 จุด สอดคล้องกับทิศทางตลาดในภูมิภาค โดยมีแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าต่อเนื่องและยอดปล่อยสินเชื่อของจีนเดือนตุลาคมที่ชะลอตัวเกินคาด การปรับตัวลงเกิดขึ้นในวงกว้าง มี 24 กลุ่มที่ปิดลบ นำโดยโรงพยาบาล ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน ธนาคาร และขนส่ง ขณะที่ปิโตรเคมี สื่อสาร และ DELTA ปรับตัวขึ้น นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ 508 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนสถาบันขายสุทธิต่อเนื่อง 1,433 ล้านบาท ท่ามกลางเงินบาทที่อ่อนค่าแตะ 34.8 บาทต่อดอลลาร์ และผลประกอบการไตรมาส 3/2024 ที่ต่ำกว่าคาด คาดตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวลงโดยมองกรอบที่ 1,430-1,455 จุด แนะนำ MTC, TASCO
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
1.รัฐบาลเตรียมจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ โดยมีนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น กลาง และยาว รวมถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ โดยจะพิจารณากระตุ้นเศรษฐกิจแยกตามรายภาคส่วน ผ่านความร่วมมือของหลายกระทรวง และจะมีการพิจารณาโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ด้วย
2.ครม. อนุมัติมาตรการสินเชื่อผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) วงเงินรวม 55,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) สินเชื่อซื้อ-สร้างบ้าน วงเงิน 50,000 ล้านบาท สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ดอกเบี้ย 3% คงที่ 5 ปีแรก กู้ได้นานสูงสุด 40 ปี และ 2) สินเชื่อซ่อม-แต่ง วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าเดิมที่มีประวัติดี กู้เพิ่มได้ไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 1% ระยะเวลา 3 ปี
3.นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีถึง 10 พ.ย. 2567 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้วเกือบ 30 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.39 ล้านล้านบาท โดย 5 อันดับแรกมาจากจีน มาเลเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และรัสเซีย ล่าสุดนักท่องเที่ยวจากยุโรปและอเมริกาเพิ่มขึ้น 16.85% เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว
4.โอเปกปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันโลกเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยประเมินว่าปี 2024 จะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 18% จากที่คาดการณ์ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันในจีน อินเดีย และแอฟริกาต่ำกว่าที่คาด ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงประมาณ 18% มาอยู่ที่ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะนักลงทุนเชื่อว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะไม่กระทบการส่งออกน้ำมัน และกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว
5.จีนเตรียมลดภาษีการซื้อบ้านจาก 3% เหลือ 1% ในเมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจีนหันมาใช้เครื่องมือทางการคลังมากขึ้นควบคู่กับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซามานาน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะยกเลิกการแบ่งแยกระหว่างบ้านธรรมดากับบ้านหรู ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยอดขายที่อยู่อาศัยในเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
MTC : ราคาพื้นฐาน 55.50
เรามีมุมมองเชิงบวกต่องบไตรมาส 3/2024 ที่เป็นไปตามคาด โดยมีกำไร 1.49 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และ 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากพอร์ตสินเชื่อที่เติบโต 3% จากไตรมาสก่อน ส่งผลให้การเติบโตตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11% นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ได้ดี ลดลงจาก 47.5% ในไตรมาส 2/2024 เหลือ 46.9% ในไตรมาส 3/2024 ขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น โดย NPL ลดลงจาก 2.9% เหลือ 2.8% พร้อมการตั้งสำรองอย่างเข้มงวดทำให้อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้เสียเพิ่มขึ้นจาก 125% เป็น 130% สำหรับแนวโน้มในอนาคต คาดว่าจะรักษาการเติบโตในระดับนี้ได้ในปี 2025 และได้ประโยชน์จากการควบคุมต้นทุนและอัตราดอกเบี้ยที่จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลงในปี 2025
TASCO : ราคาพื้นฐาน 17.00
เรามีมุมมองเชิงบวกหลังผลประกอบการไตรมาส 3/2024 ออกมาดีกว่าคาดถึง 84% และดีกว่าที่ตลาดคาด 16% จากอุปสงค์ยางมะตอยที่แข็งแกร่งกว่าคาด ส่งผลให้ปริมาณขายเพิ่มขึ้นเป็น 340,000 ตันในไตรมาส 3/2024 พร้อมกับราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจาก 9.7% ในไตรมาส 2/2024 เป็น 16% ในไตรมาส 3/2024 โดยอุปสงค์ยางมะตอยในประเทศที่แข็งแกร่งมาจากการเบิกจ่ายภาครัฐที่ดีขึ้น และคาดว่างบประมาณรายจ่ายลงทุนที่เพิ่มขึ้น 25% สำหรับปี 2568 จะเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมให้กับ TASCO
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินสหรัฐฯ (US CPI) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.6% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Core CPI ตลาดคาดที่ +3.3% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
- วันพฤหัสฯ ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐเดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.3% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.8% YoY ต่อด้วยถ้อยคำแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ในงานอภิปรายกลุ่มในหัวข้อ “Global Perspectives” ที่จัดโดยธนาคารกลางสหรัฐ สาขาดัลลาส และปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ที่ตลาดคาดการณ์ที่ 2.23 แสนราย เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.21 ราย
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial production) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 5.6% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 5.4% YoY ต่อด้วย ดัชนียอดค้าปลีกของจีน (Retail sales) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.2% YoY และปิดท้ายด้วยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ดัชนียอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM