บล.พาย:

CBG: Carabao PCL

ตั้งเป้าปี 2025 โตจากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 94.00 บาท เนื่องจากเราเชื่อว่ากลยุทธ์ 10 บาท/ขวด จะผลักดันการเติบโตยอดขายและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในประเทศได้อย่างต่อเนื่อง เราประเมินส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศในเชิงปริมาณของคาราบาวอย่างอนุรักษ์นิยมที่ 26% ในปี 2025 โดย (ทุกๆ 1% ของส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นจากประมาณการเราจะส่งผลบวกต่อประมาณการกำไรปี 2025 ราว 2.5%) เรามีมุมมองสอดคล้องกับบริษัทที่คาดว่ายอดขายใน CLMV จะขยายตัวเพียงเล็กน้อยท่ามกลางปัจจัยที่ไม่แน่นอน ขณะที่เราประเมินรายได้จัดจำหน่ายต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัท เนื่องจากเราเชื่อว่ารายได้จัดจำหน่ายที่โตโดดเด่นในเดือน ต.ค. 2024 ที่บริษัทมองว่าเป็นฐานใหม่ นั้นเราเชื่อว่าอาจเป็นเพียงฐาน สูงจากนโยบายแจกเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

ปี 2025 เน้นโตจากในประเทศ

บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2025 เติบโต 20% YoY จาก 1) ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่เติบโต 30%YoY จากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 29.0% ในสิ้นปี 2025 จาก 26.0% ในสิ้นปี 2024 ผ่านกลยุทธ์เดิมคือการคงราคาขายปลีก 10 บาท/ขวด ซึ่งสะท้อนผ่านส่วนแบ่งการตลาดเดือนก.ย. 2024 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 25.8 % เทียบกับ 23.4% ในเดือน ธ.ค. 2023 และ 19.9% ในเดือน มี.ค. 2022, 2) รายได้จัดจำหน่ายสุราข้าวหอมที่เติบโตตามเป้ายอดขายสุราที่ 14.5 ล้านขวดในปี 2025 (+21%YoY) จาก 12 ล้านขวดในปี 2024, และ 3) ยอดขายใน CLMV ที่ 755 ล้านกระป๋องในปี 2025 (+2%YoY) จาก 740 ล้านกระป๋องในปี 2024

ในแง่ของต้นทุนบริษัทมีแผนปรับปรุงประสทธิภาพการผลิตเพื่อให้ต้นทุนต่ำลง เช่นการลดขนาดความหนาของกระป๋องลง 0.005 มิลลิเมตร ลดปริมาณน้ำแก้วที่ใช้ต่อขวดลง โดยเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นสินค้า Branded own จะขยายตัวได้ YoY ในปี 2025 จากการประหยัดต่อขนาดจากกำลังการผลิตที่สูงขึ้น ต้นทุนอลูมิเนียมที่ลดลงจากคู่ค้ารายใหม่ รวมถึงต้นทุนน้ำตาล เศษแก้วและต้นทุนอื่นๆ ก็มีทิศทางที่ลดลง นอกจากนี้บริษัทเตรียมปรับสูตรเพื่อรับมือภาษีความหวานในเดือนเม.ย. 2025 ปัจจุบัน Carabao เสียภาษีความหวานในอัตรา 0.3 บาท/ ลิตร (น้ำตาล 7.8 กรัม/100ml) ซึ่งคาดว่าสูตรไม่จะไม่กระทบต่อความนิยมในสินค้า ส่วนการหาผู้จัดจำหน่ายที่จะช่วยทำตลาดในประเทศจีนมีโอกาสเห็นความชัดเจนช่วงต้นปี 2025 หากย้อนกลับไปในอดีตคาราบาวเคยทำยอดขายในประเทศจีนได้มากกว่า 1 พันล้านบาทในปี 2017 หาก CBG กลับไปมียอดขายในประเทศจีนเท่าปี 2017 จะเป็น upside ต่อประมาณการเราราว 10% ในปี 2025 เราประเมิน upside จากปัจจัยดังกล่าวที่ราว 5%-10% ของประมาณการกำไรปี 2025 หรือคิดเป็น 4-8 บาทต่อหุ้น

กำไร 3Q24 โตทั้ง YoY และ QoQ

กำไร 3Q24 เติบโต YOY หนุนจากยอดขายสินค้า Branded own ในประเทศที่เติบโต 9%YoY ตามส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น ยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังในตลาด CLMV ฟื้นตัว 6%YoY ซึ่งชดเชยกับการขาดหายไปของยอดขายในประเทศจีน ขณะที่รายได้การจัดจำหน่ายขยายตัว 26% YoY ใน 3Q24 หนุนจากยอดขายสุราที่เติบโตดี แม้ยอดขายเบียร์จะทำได้ราว 100 กว่าล้านบาท ในช่วง 3Q24 กำไร 3Q24 เพิ่มขึ้น QoQ จากอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นจากสัดส่วนยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสินค้า Branded own ขยายตัว 90 bps Q0Q ใน 3Q24 แม้ว่าจะรับรู้ต้นทุนน้ำตาลสต็อกใหม่ใน 3Q24 ที่เพิ่มขึ้นราว 10%จาก 1H24 รวมถึงต้นทุนอลูมิเนียมปรับตัวสูงสอดคล้องกับราคาอลูมิเนียมที่สูงขึ้น YoY แต่บริษัทสามารถบริหารจัดการวัตถุดิบอื่นรวมถึงต้นทุนบรรจุภัณฑ์ เช่น เศษแก้ว ได้เป็นอย่างดี และมีปัจจัยบวกจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง

คำแนะนำ “ซื้อ” แนวโน้มกำไรยังสดใสต่อเนื่อง

มูลค่าพื้นฐาน 94.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 7.7% และ TG 3% เทียบเท่า 28xPE’25E ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง

- Advertisement -