กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมด้วย องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และ Shanghai Taihuixuan Technology Co., Ltd. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) จัดตั้งร้านค้า “THAI MALL” ในแพลตฟอร์ม E-commerce ประเทศจีน เชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ดันสินค้าเกษตรและผลไม้ไทยสู่เมืองเศรษฐกิจ เซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น และ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ยกระดับภาคการเกษตรไทยในระดับนานาชาติ
นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภาคเกษตรที่มีสัดส่วนจำนวนราวร้อยละ 10 ของมูลค่ารวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกผลไม้ไทยถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยมาจนถึงปัจจุบัน
แม้ในช่วงที่ผ่านมาผลผลิตทางการเกษตร อาจชะลอตัวจากความเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเพาะปลูกและปริมาณผลผลิต อย่างไรก็ตามด้วยคุณภาพที่ได้รับการยกย่องให้ผลไม้ไทยเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ดีที่สุดในโลก ได้รับการยืนยันจากมาตรฐานสากล ทำให้ผลไม้ไทยยังคงมีความต้องการในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดประเทศจีน ที่มีปริมาณการส่งออกทุเรียน มังคุด ลำไย ในช่วง มกราคม -ตุลาคม 2567 คิดเป็นปริมาณ 1,253,208.1 ตัน หรือมีมูลค่ากว่า 130,372.7 ล้านบาท
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตระหนักถึงศักยภาพและความสำคัญของภาคการเกษตรไทยในการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ จึงมุ่งมั่นพัฒนามาตรฐานของผลผลิตทางการเกษตรให้มีคุณภาพสูง มีคุณภาพและมีความปลอดภัย ตอบสนองความต้องการของตลาดโลก โดยให้การสนับสนุนเกษตรกรในด้านการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการเพาะปลูก การปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และ รักษาคุณภาพของผลผลิตให้ได้มาตรฐานสากล
นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า อ.ต.ก. พร้อมด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ Shanghai Taihuixuan Technology Co., Ltd. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อจัดตั้งร้านค้า “THAI MALL” ในแพลตฟอร์ม E-commerce ของประเทศจีน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าเกษตรและอาหารของไทยให้ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง โดย อ.ต.ก. มีหน้าที่ในการจัดหา คัดเลือกผลไม้ที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งจัดส่งไปยังเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศจีน ได้แก่ มหานครเซี่ยงไฮ้ เซินเจิ้น และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับอีกขั้นของภาคเกษตรไทย เพื่อขยายตลาดสินค้าเกษตร เชื่อมต่อห่วงโซ่อุปทานให้มีความสมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายในการเปิดแบรนด์สินค้าในร้านค้าดังกล่าว ไม่น้อยกว่า 10 ร้าน ภายในเดือนกันยายน ปี 2568
อีกทั้งนับเป็นการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ภาคการเกษตรของประเทศไทย ได้มีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มห่วงโซ่อุปทานของโลก (Global E-commerce Platform) ผ่านการขยายสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน ในระบบ E-commerce ต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน ซึ่งมีความต้องการสินค้าเกษตรของไทยในปริมาณสูง และ เป็นการเชื่อมโยงระบบการค้าไทยไปสู่ประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพในอนาคต
ด้าน Mr.Chen Zhifa ประธานกรรมการบริษัท Shanghai Taihuixuan Technology Co., Ltd. กล่าวว่า ประเทศจีนให้การยอมรับในสินค้าทางการเกษตร รวมถึงผลไม้ของไทยมาอย่างยาวนาน โดยบริษัทมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือในครั้งนี้ โดยเป็นตัวกลางเชื่อมต่อสินค้าคุณภาพของไทยไปยังแพลตฟอร์มที่ได้มาตรฐาน และไปสู่เมืองที่มีความต้องการสินค้าสูง
โดยบริษัทมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการค้าสินค้าออนไลน์ มีความพร้อมด้านขนส่ง โกดังเก็บสินค้า รวมถึงสามารถเข้าถึง และ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลบนแพลตฟอร์ม E-commerce ของจีนได้เป็นอย่างดี ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศไทย รวมถึงเป็นกำลังในการส่งเสริมความแข็งแกร่งของสินค้าไทยในระดับนานาชาติ