“AF” โชว์กำไร 9 เดือนแตะ 15.16 ล้านบาท เติบโต 10.09% กวาดรายได้ 192 ล้านบาท เติบโต 8.47% รับผลบวกเศรษฐกิจฟื้นตัว
บมจ.ไอร่า แฟคตอริ่ง “AF” ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือน โชว์กำไรสุทธิ 15.16 ล้านบาท เติบโต 10.09% โกยรายได้รวม 192 ล้านบาท
ด้วยสถานการณ์การปล่อยสินเชื่อปี 2567 ของไทย ที่ยังอยู่ในภาวะไม่เติบโต AF ได้วางกลยุทธ์สำคัญเพื่อเพิ่มรายได้ โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น Green Financial Solutions เพื่อให้สอดคล้องการปรับตัวของธุรกิจตามแนวทาง ESG ซึ่งมีแนวโน้มเติบโต และสร้างรายได้อย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการยกระดับการให้บริการ ในรูปแบบบริการผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล
นายอัครวิทย์ สุกใส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AF ผู้นำด้านการให้บริการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นแก่ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 15.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.39 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.09% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.47% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 เศรษฐกิจในประเทศไทยได้มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ที่ได้รับอานิสงค์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคการส่งออกก็มีการปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2567 และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดลงอยู่ที่ยังเป็นกลาง แต่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับที่สูง เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสถานการณ์การเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างสูง
บริษัทฯได้ดำเนินกลยุทธ์การป้องกันไม่ให้หนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ โดยจะติดตามการชำระสินเชื่อ โดยมีกระบวนการพิจารณาเครดิต (Underwriting) และติดตาม (Monitoring) คุณภาพสินเชื่อจากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ทั้งด้านลูกค้าและลูกหนี้การค้า ทั้งก่อนและหลังอนุมัติสินเชื่อ ตลอดจนมีการกำหนดนโยบายเครดิตเพื่อเป็นมาตรฐานในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตกำหนดให้มีการทบทวนเครดิตลูกค้าและลูกหนี้การค้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง รวมทั้งมีการติดตามและปรับปรุงกระบวนการด้านเครดิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในกระบวนการปฏิบัติงาน และเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจแต่ละช่วงเวลา โดยอาศัยเทคโนโลยีและฐานข้อมูลในการบริหารความเสี่ยง ที่ผ่านมาจึงมีคุณภาพการบริหารสินเชื่ออยู่ในระดับที่ดี
อีกทั้งความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยยังส่งผลต่อผลประกอบการ ทำให้บริษัทฯมีมาตรการในการลดความเสี่ยง โดยจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมและคิดอัตราผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความเสี่ยง จากธุรกรรมลูกหนี้จากการซื้อสิทธิเรียกร้อง เพื่อให้บริษัทฯสามารถรักษาส่วนต่าง (Spread) ของดอกเบี้ยได้ตามที่บริษัทฯต้องการและยังสามารถปรับอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บได้ ทำให้บริษัทฯมีความคล่องตัวในการปรับตัวในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวน
นอกจากนี้ด้วยการบริหารที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯสภาพคล่องและได้รับการสนับสนุนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ส่งผลให้สามารถรองรับการดำเนินธุรกิจและขยายธุรกิจในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการบริหารสภาพคล่องที่เหมาะสมระหว่างต้นทุนและผลตอบแทน เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง