บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับขึ้นเล็กน้อย +2.37 จุด +0.16% ปิด 1462.4 จุด ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่หนุนหรือกดดันอย่างมีนัยยะ ตลาดรอตัวเลขเศรษฐกิจ และรอดูสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครน มูลค่าการซื้อขายยังเบาบาง 3.4 หมื่นล้านบาท หุ้นกลุ่มที่หนุนดัชนีมีเพียง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, CCET) กลุ่มประกันชีวิต TLI ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่กดดัชนีคือ กลุ่มขนส่ง (AOT) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT) กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
AOT -1.63%, ERW -1.44%, CENTEL -0.66%, BA -1.23%
หุ้นกลุ่มสนามบิน โรงแรม ปรับลง มีจิตวิทยาลบจากมุมมองภาคการท่องเที่ยวไทยระยะสั้น อาจจะกระทบจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครนตึงเครียดในสัปดาห์นี้ หลังรัสเซียประกาศปรับหลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ตอบโต้ยูเครนที่โจมตีรอบล่าสุด KSS ประเมินหากสถานการณ์ไม่บานปลายคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยในปี 2024 คาด 36 ล้านรายมีโอกาสเป็นไปได้สูง จากฤดูกาล High season มองเป็นจังหวะสะสมหุ้น AOT , ERW
SPRC +1.48%
กลุ่มโรงกลั่นปรับขึ้นแรงหนุนจาก ค่าการกลั่นอิงตลาดสิงคโปร์ ล่าสุด 19 พ.ย. อยู่ที่ 6.11 $ + 6.4%d-d ทำจุดสูงสุดในรอบ 2 อาทิตย์ และแนวโน้มงวด 4Q24 มีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยเป็นช่วง Season ที่ปรับขึ้นเป็นปกติ ผสานกับปีนี้แรงหนุนจาก ล่าสุด จีนประกาศลด VAT Rebate เหลือ 9% จากเดิม 13% มีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 24 โดบรัฐบาลจีนมุ่งเน้นการสร้างรายได้ในประเทศมากขึ้น และจำกัดการพึ่งพาส่งออกน้ำมันสะอาด KSS มองเป็นแนวโน้มปริมาณส่งออกน้ำมันของจีนอาจลดลง เพราะต้นทุนส่งออกเพิ่มขึ้นใน 2025 สัญญาณดังกล่าวเรามองมีโอกาสเปิด Upside ให้กับกำไรกลุ่มโรงกลั่นระยะถัดไปได้ ระยะสั้นเน้นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งพร้อมฟื้นตัว q-q ใน 4Q24 อาทิ SPRC, BCP
DELTA +4.83%, CCET +6.32%
หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนปรับขึ้นแรงหนุนจาก 1.)จิตวิทยาบวกจากกลุ่ม Semiconductor ในสหรัฐปรับขึ้นเด่น อาทิ NVIDIA +4.89% เก็งงบ 3Q24 Supermicro computer + +31.2% 2.) ก่อนหน้า DELTA Taiwan รายงานยอดขาย ล่าสุด เดือน ต.ค. +11.9%y-y อยู่ที่ 38.82 พันล้านเหรียญฯ 3.) CCET เป็น 1 ใน 3 บริษัทที่คาดจะเข้า SET100 รอบ 1H25 ก่อนที่ตลาดจะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2024 และมีผลเริ่มใช้ 1 ม.ค. 2025
TTA -0.89% PSL -0.63%
หุ้นกลุ่มเรือเทกองปรับลงมีจิตวิทยาลบจากตัวเลขดัชนีค่าระวางเรือ BDI -7.35%d-d, -10%mtd ปิดที่ 1627 จุด
AMATA +0.88%
ปรับขึ้นแรงหนุนหลักจาก 1.)กระแสการย้ายฐานการผลิตมาไทย จากทิศทางนโยบายของ Donald Trump และกระแสการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ Datacenter 2.) เราคาดกำจะที่ดีขึ้นใน 4Q24 สนับสนุนจากยอดโอนที่ดินสูงขึ้น (มี Backlog 19.4 พันลบ.) และกำไร SPP จะดีขึ้นเนื่องจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ สำหรับ AMATA ราคาเป้าหมาย 29.0 บาท