บล.ฟินันเซีย ไซรัส: 25/11/67

Daily Focus: ฟื้นตัวระยะสั้นตามต่างประเทศ / / MSCI Rebalance มีผลวันนี้

2025 SET Target: 1600

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวระยะสั้นตามคาด โดยเฉพาะหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับพิจารณาประเด็นคุณทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง อย่างไรก็ตาม ดัชนีย่อตัวลงเล็กน้อยช่วงท้ายตลาด ก่อนปิดบวก 5.84 จุด ที่ระดับ 1,446.30 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.6 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิบางๆ 118 ลบ. (แต่พลิกมา Long Index Futures 1.7 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways Up เข้าหากรอบ 1,450-1,460 จุด หนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นบวก เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่ม Value Play ขณะที่กลุ่ม Tech ปรับตัวผสมผสาน ด้าน Dollar Index พลิกอ่อนค่าลง ส่งผลให้ค่าเงินสกุลเอเชียรวมถึงบาทพลิกมาแข็งค่า ล่าสุดอยู่ที่ 34.40 บาท/ดอลลาร์ คาดเอื้อให้กระแสเงินทุนไหลเข้าหาฝั่งเอเชียได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม คาดเห็นความผันผวนช่วงท้ายตลาดจากผลของ MSCI Rebalance ซึ่งมีผลราคาปิดวันนี้ ด้านปัจจัยในประเทศโดยรวมผ่อนคลายแรงกดดันหลังศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องประเด็นคุณทักษิณ-พรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ทำให้ปัจจัยการเมืองไม่มีแรงกดดัน ส่วนภาพรวม EPS SET ถูกทยอยปรับประมาณการลงพอสมควรแล้ว โดยปี 2025 ปัจจุบันอยู่ที่ราว 99บาท +13% y-y เราคาดโมเมนตัมกำไร บจ.และเศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวอีกครั้งใน 4Q24 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว รวมถึงปี 2025 ที่มองภาคการลงทุนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโต นอกจากนี้ยังมี Upside หากกนง.ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่วน Downside คาดว่ายังถูกจำกัดจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1

กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วง ก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : MAGURO, MTC, OSP, SFLEX, VIH

FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CPALL, CPN, ITC, KCG, KTB, MTC, NSL, SFLEX, SHR

หุ้นเด่น Finansia 25 พ.ย. 24 : ADVANC

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus  292.21 บาท
• คาดโมเมนตัมกำไรยังเป็นขาขึ้น โดย 4Q24 คาดเติบโต q-q จากปัจจัยฤดูกาล ภาพรวมยังเห็นการเติบของ ARPU ที่ยังไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องจากการแข่งขันที่ลดลง ส่วนด้านการลงทุนคาดทยอยลดลงและอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลตอบแทน
• IAA Consensus คาดกำไรปี 2025 ที่ 3.68 หมื่นลบ. +10% y-y ระยะสั้นคาดวันนี้จะได้อานิสงส์จากคาดการณ์ของตลาดว่าจะถูกปรับเพิ่มน้ำหนักจาก MSCI Rebalance ซึ่งมีผลวันนี้
• แนวรับ 285//280 บาท แนวต้าน 293//297-300 บาท 

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$377 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$263 ล้านและ US$148 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินยังค่อนไปในทิศทางไหลออกบางๆ สูงสุดที่อินโดนีเซีย US$22 ล้าน ส่วนเวียดนามไหลเข้าอ่อนๆ แนวโน้มกระแสเงินทุนมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่องจาก Sentiment การลงทุนที่ดูเป็นบวกและเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ส่วน Dollar Index พลิกมาอ่อนค่าหนุนเงินสกุลเอเชียพลิกแข็งค่า

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) จับตาส่งออกไทยเดือน ต.ค. พรุ่งนี้ ตลาดคาดตัวเลขส่งออกไทยเดือนต.ค. 2024 +5.4% y-y เพิ่มขึ้นจาก +1.1% y-y ในเดือนก.ย. 2024 ขณะที่คาดนำเข้า +6.4% y-y ลดลงจาก 9.9% y-y ในเดือนก่อนหน้า เชื่อว่าตัวเลขที่ดีขึ้นส่วนหนึ่งน่าจะมาจากค่าเงินบาทที่กลับมา อ่อนค่า และการเร่งสั่งซื้อสินค้าก่อนเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลางปลายปี หากออกมาดีตามคาดจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย รวมถึงหุ้นในกลุ่มส่งออกด้วย

(+) CHG บริษัทปรับลดเป้ารายได้ปี 2024 ลงเป็น 12% จาก 15% เนื่องจากรายได้ 3Q24 ต่ำกว่าคาด แม้กำไรปกติ 3Q24 ทำสถิติสูงสุดใหม่ ขณะที่ราคาหุ้นปรับลง 7-10% หลังประกาศงบ 3Q24 และเป็นไปได้ว่าเนื่องจากตลาดกังวลการเติบโตของรายได้จะต่ำกว่าคาด แต่เชื่อว่าราคาหุ้นได้รับรู้ไปหมดแล้ว เรายังมองบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ 10-12% y-y และคาดผลขาดทุนจากโรงพยาบาลแม่สอดจะลดลงต่อเนื่อง คงประมาณการกำไรและราคาเป้าหมาย 3.80 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) SIRI ยอด Presales 4Q24 คาดโตต่อและจบปี 2024 +10-15% Y-Y เป็นสูงสุดในรอบ 5 ปี กำไรปกติ 4024 คาดเร่งขึ้นเป็นไตรมาสดีสุดของปีตามทิศทางยอดโอน เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2024-26 ที่ 6%/6%/13% เป็น 5 พันลบ. -2% y-y, 5.16 พันลบ. +3.5% y-y และ 5.2 พันลบ. +1% y-y ตามลำดับ เพื่อสะท้อนปรับยอดโอนขึ้นและการขาย The Standard และปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2025 ที่ 2.20 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ

(+) GABLE คาดมูลค่าการใช้จ่ายด้าน IT เติบโต 11% CAGR ในช่วงปี 2024-27 ภาคสถาบันการเงินมีการใช้จ่ายมากกว่ากลุ่มธุรกิจอื่น และเติบโตสูง เป็นบวกต่อ GABLE และ R2 จะเข้ามาช่วยเสริมบริการ IT Infrastructure ของ GABLE ให้ครอบคลุมมากขึ้น แนวโน้มกำไรใน 4Q24 ยังคงเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี ทำให้กำไรทั้งปี 2024 คาด -11% y-y และคาดกำไรปกติในปี 2025-26 +22%/+18% ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 5 บาท ปัจจุบันเทรดที่ P/E เพียง 8.9 เท่า ถูกสุดในกลุ่มและในภูมิภาค ยังแนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 426.16 จุด หรือ +0.97%, ปิดที่ 44,296.51 จุด เนื่องจากนักลงทุนได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างแข็งแกร่งในสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก โดยทั้งดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdag ต่างก็ปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้

(+) ตลาดหุ้นยุโรป บวก แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่บรรเทาลงนั้นได้ช่วยลดแรงกดดันจากการขายหุ้นในช่วงที่ผ่านมา

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก โดยในสัปดาห์นี้มีประเด็นภายในภูมิภาค อาทิ ทิศทางของนโยบายทางการเงินของเกาหลีใต้ และ GDP 3Q24 ของอินเดีย

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.49 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.64%

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.6% สู่ระดับ 71.24 ดอลลาร์/บาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากการทำสงครามที่รุนแรงขึ้นในยูเครนในสัปดาห์นี้ได้หนุนค่าพรีเมียมความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ของตลาด ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 71.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.03%

(+) ราคาทองคำ COMEX บวก 37.30 ดอลลาร์ หรือ +1.4% ปิดที่ 2,737.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยพุ่งทะลุระดับ 2,700 ดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี เนื่องจากแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้บดบังปัจจัยลบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ลดลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือนหน้า ในขณะที่เช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 2,737.60 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ +0.01%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 877.97/-

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- Advertisement -