ภายในมีหวัง ภายนอกมีสัญญาณดี / 1,435-1,455
SET พลิกกลับสู่แดนบวก : แรงหนุนจากความหวังการเจรจาการค้าและการเผยตัวเลขส่งออกที่คาดขยายตัวเร่งตัวขึ้น รวมถึงความหวังของขวัญปีใหม่อีกทั้งยังได้ Sentiment หนุนจากความคลายกังวลสงคราม หากแต่ทางขึ้นถูกลดทอนลงด้วยราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
กลยุทธ์การลงทุน
- ท่องเที่ยวและ Spending: AAV, ADVANC, AOT, AWC, BJC, CBG, CENTEL, CRC, MINT,
OKJ, SHR, TNP - ส่งออก: AAL, CCET, CPF, IVL, TFG
- Anti-comm.: BGRIM, GPSC, GULF, TASCO
- คาดเข้า SET50/100: COM7, PR9, TCAP
- กองทุน TESG และ VAYU1: BBL, FTREIT KBANK, LHHOTEL, TISCO, WHART
- หวังสัญญาณดีจากการเจรจาและตัวเลขการค้าไทย: คาด SET Index จะได้ Sentiment หนุนจากความหวังความคืบหน้าของการเจรจาการค้า หลังกระทรวงพาณิชย์เผยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจรจาจัดทำ
FTA ระหว่างไทย-EU รอบที่ 4 ตั้งแต่วานนี้-29 พ.ย.67 นอกจากนี้ติดตามการเผยตัวเลขการค้าเดือนต.ค.67 ของไทยในวันนี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเชิงบวก รวมถึงต่อ GDP4Q67 หลังตลาดคาดการส่งออก 5.1% y-y เร่งจาก 1.1% y-y ในเดือนก.ย.67 ขณะที่การนำเข้าคาดขยายตัว 6.4% y-y ชะลอจาก 9.9% y-y ในเดือนก.ย.67
- ภาครัฐกยอยเผยของขวัญปีใหม่: คาด SET Index จะได้แรงหนุนจากความหวังต่อของขวัญปีใหม่ 68 ที่ทยอยเผยออกมา หลังวานนี้รมว.พลังงานเผยเตรียมตรึงค่าไฟงวดเดือนม.ค.-เม.ย.68 ไว้ที่ 4.18 บาท/หน่วย โดยยืนยันว่าจะไม่มีการขึ้นค่าไฟอย่างแน่นอน รวมถึงพยายามศึกษาหาแนวทางที่สามารถทำให้ราคาค่าไฟถูกลงต่ำกว่า 4.18 บาทต่อหน่วย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
- คลายกังวลสงครามการค้าและตะวันออกคลาง : คาดปัจจัยภายนอกจะเป็นอีก Sentiment เชิงบวกต่อ SET Index ท่ามกลางความคลาย กังวลการทำสงครามการค้า หลังคุณทรัมป์ ว่าที่ปธน.สหรัฐฯ เสนอ ชื่อคุณเบสเซนต์ ซึ่งสนับสนุนการจัดเก็บภาษีนำเข้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป และมีแนวโน้มดำเนินมาตรการที่เอื้อต่อตลาดหุ้น ให้ดำรุงตำแหน่งรมว.คลังคนใหม่ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ข่าวการเสนอชื่อข้างต้นยังส่งผลให้อัตรา US bondyield 2 และ 10 ปี ปรับตัวลงทำ low ที่ระดับ 4.25% และ 4.26% ตามลำดับ ซึ่งจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อีกทั้งสินทรัพย์เสี่ยงยังได้แรงหนุนจากความคลายกังวลสงคราม หลัง Axios รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่าอิสราเอลและเลบานอนได้บรรลุข้อตกลงชั่วคราวเกี่ยวกับเงื่อนไขในการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยอิสราเอลจะพิจารณาข้อตกลงในวันนี้ ในทางกลับกัน การบรรลุข้อตกลงข้างต้นได้เป็นแรงคดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 3.23% ปีดที่ 568.94 ต่อบาร์เรล ส่งผลให้คาดว่าจะเป็น Sentiment เชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และลดทอนทางขึ้นของ SET Index
+ ปัจจัยเพิ่มเติม –
(+) สมาคมผู้ค้าปลีกไทยมองทิศทางค้าปลีกปี 68 คาดอาจเติบโตราว 3-5% เทียบกับจีดีพีที่คาดว่าจะเติบโต 2.3-3.3% ด้วยแรงหนุนจากภาคท่องเที่ยวและส่งออก รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ
(+) นบข.เห็นชอบเงินช่วยเหลือชาวนา ช่วยค่าเก็บเคี่ยวและปัจจัยการผลิตข้าว 1 พ้นบาท/ไร่ ไม่เดิน 10 ไร่/ครัวเรือน โดยจะเข้าสู่ที่ประชุมครม. ในวันที่ 29 พ.ย.67
(-) ส.อ.ท.เผยรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนต.ค.67 มีทั้งสิน 118,842 คัน ลดลง 2.81% m-m ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนต.ค.67 มีจำนวน 37,691 คัน ลดลง 36.08% m-m ต่ำสุดในรอบ 54 เดือน นอกจากนี้ส.อ.ท.ได้ปรับลดเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 จาก 1.7 ล้านคัน เป็น 1.5 ล้านคัน
(-) KKP ประเมินตลาดอสังหาฯปี 67 คาดยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจะลดลง 15% หรือประมาณ 3.2 แสนหน่วย ซึ่งเป็นยอดที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี สาเหตุหลักมาจากการปฏิเสธสินเชื่อของธนาคารที่ยังคงเข้มงวด
PICKS OF THE DAY
AOT BUY
- เป้าหมาย 63.00 / 64.00 แนวรับ 61.00
- 1Q-2Q68 เข้าสู่ high season ของการท่องเที่ยว: 1Q-2Q68 (ต.ค. 67-มี.ค. 68) เป็น high season ของการท่องเที่ยวโดย ต.ค. นัก ท่องเที่ยว +24% สอดคล้องกับผู้โดยสารตปท. ของ AOT +20% อีกทั้งตารางบินฤดูหนาว (พ.ย. 67-มี.ค. 68) มีเที่ยวบินที่นำผู้โดยสาร ตปท. ดีกว่า AOT คาด 30.6% ทำให้เห็นแนวโน้มที่ดี
- ปี 2568 มีหลายประเด็ดที่น่าติดตาม: ใน ปี 2568 จะมีการเปิดประมูลผู้ให้บริการภาคพื้น/คาร์โก้รายที่ 3 ต้นปี 2568 และประมูลผู้ให้บริการศูนย์ซ่อมอากาศยานรายที่ 3 คาดเป็นกลางปี 2568 ซึ่ง AOT จะมีส่วนแบ่งรายได้จาก 2 กิจกรรมในปลายปี 68-69 และการเก็บค่า Transit/ Transfer และขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) ที่กรมการบินพลเรือนได้ตั้งที่ปรึกษามาศึกษาอัตราที่เหมาะสม คาดจะเห็นในปีนี้เช่นกัน?
OKJ BUY
- เป้าหมาย 16.90 / 17.40 แนวรับ 15.70
- ขยายอาณาจักร OKJ: บริษัทเตรียมเปิดสาขา OKJ เพิ่มอีก 4 สาขาใน 4Q67 ได้แก่ ในกรุงเทพฯ 2 สาขา (One Bangkok และ The Mall ท่าพระ) และ ต่างจังหวัด 2 สาขา (โคราช และขอนแก่น) ทำให้สิ้นปี 67 คาดว่าจะมีสาขา OKJ รวม 41 สาขา นอกจากนี้ จะเปิด Oh! Juice เพิ่มอีก 8 สาขา: 7 สาขาในกรุงเทพฯ และ 1 สาขาที่ขอนแก่น เผยเป้าหมายระยะยาวจะเพิ่ม OKJ 1-2 สาขาต่อไตรมาสจนถึง 70 สาขาในปี 71 โดยประมาณ 40-50 สาขาจะอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงมีแผนดันแบรนด์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้ามียอดขาย 25% จากแบรนด์ใหม่ๆนอกจากร้านอาหาร OKJ
- ยอดขายและกำไรโตสูง: 3Q67 มียอดขาย 633.3 ลบ. +44.6% y-y กำไรสุทธิ 60.1 ลบ. +101% y-y และมี SSSG 16.8% เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 1Q67 ที่ 5% และ 2Q67 ที่ 10.9% โดยเป็นการเติบโตจาก traffic ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก