บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
📈SET Index ลดลง -5.06จุด (-0.35%) ปิดที่ระดับ 1,438.25 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 3.6 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 320 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 168 บริษัท) Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (GULF, PTT, PTTEP) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA,HANA)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
💻 DELTA (+4.1%), HANA (+2.7%) มีจิตวิทยาบวก 2 ประเด็น 1) ก.พาณิชย์รายงานยอดส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ส่วนประกอบเดือน ต.ค. เร่งตัวขึ้น 77.5%yoy มากกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกกว่าเท่าตัว (ม.ค. -ต.ค. โต 37.1%), 2) US Bond yield 2 และ 10 ปี เริ่มชะลอตัวเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่ม Tech หรือ หุ้น Growth Stock
🚈 BTS (2.9+%) มีจิตวิทยาบวกจากข่าว สภา กทม. ไฟเขียวจ่ายหนี้ให้ BTS ก้อนแรกประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท หนุน Cash flow เพิ่ม และช่วยลดภาระหนี้ประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีประเด็นให้เก็งกำไรจากนโยบายเก็บค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายเป็นบวกต่อ BTS โดยตรง (สายสีเขียวเหลือสัญญาสัปทานไม่นานขายออกคุ้มค่ากว่าหากเทียบกับ BEM, สายสีเหลือง, ชมพู ปัจจุบันขาดทุนหากขายออกจะช่วยลดขาดทุนให้กับ BTS)
🧤STA (+1.1%), STGT (+4.6%) ตอบรับรายงานยอดส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางเดือน ต.ค.เพิ่มขึ้น 32.6%yoy และ 27.2%yoy เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน คาดหนุนยอดขายและผลกำไรของ STA และ STGT ปรับขึ้นต่อเนื่องใน 4Q24
🛣 TASCO (+3.2%) มีจิตวิทยาบวกจากราคาน้ำมันดิบปรับลง นักลงทุนคาดหวังต้นทุนผลิตยางมะตอยลดลงตาม เนื่องจากน้ำมันดิบเป็นสารตั้งต้นหรือวัตถุดิบหลักของโรงกลั่นยางมะตอยหนุน Gross profit margin เพิ่มขึ้น (อย่างไรก็ตามมองเป็นประเด็นเก็งกำไรในระยะสั้นเท่านั้น)
⚽️ JAS (+0.9%), MONO (+22%) นักลงทุนมีความคาดหวังเชิงบวกหลัง The Football Association Premier League Limited ได้ลงนามยืนยันอย่างเป็นทางการแจ้งว่า JAS ได้สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียงของ EPL และ FA Cup เป็นเวลา 6 ปี 6 ฤดูกาล ใน 3 ประเทศ (ไทย กัมพูชา และลาว) โดยวานนี้ทีมกลยุทธ์ของเราได้ Comment และแนะนำเก็งกำไร JAS และ MONO สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง