Daily Focus: คาดยังเห็นการชะลอตัวลงหา 1,400+- จุด
2025 SET Target: 1600
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ชะลอตัวลงต่อเนื่องตามคาดหลังหลุดแนวรับ 1,440 จุด โดยดัชนีปิดลบอีก 7.85 จุด ที่ระดับ 1,430.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทรงตัวราว 3.7 หมื่นลบ. โดยยังมีแรงขายกดดันในหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง ส่วนหุ้นขนาดกลาง-เล็กหลายตัวถูกเทขายหนัก สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 891 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิบางๆ 89 ลบ. (แต่ Short Index Futures เร่งขึ้นเป็น 1.6 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยังอยู่ในช่วงแกว่ง Sideways Down พักตัวลงต่อเนื่อง หลังสู่ระดับแนวรับหลักถัดไปบริเวณ 1,440+- จุด หลังจากหลุดต่ำกว่า 1,440 จุด ภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น ตลาดยังจับตาความเสี่ยงนโยบายขึ้นภาษีสินค้าของทรัมป์ รวมถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ล่าสุดตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน ต.ค. สหรัฐฯออกมาใกล้เคียงคาดโดย Core +0.3% m-m, +2.8% y-y เริ่มเห็นการปรับลงที่ค่อนข้างช้า แม้คาดการณ์ตลาดส่วนใหญ่จะยังให้โอกาส FED ลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. อีก 25 bps ด้วยความน่าจะเป็นราว 65% แต่การปรับลงในปีหน้ายังมีความไม่แน่นอน โดยปัจจุบันตลาดประเมินราว 58 bps ซึ่งต้องติดตาม Dot Plot ว่าจะเปลี่ยนแปลงจากครั้งล่าสุดที่มอง 100 bps มากน้อยเพียงใด ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการประชุมครม.สัญจรวันศุกร์ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ระยะสั้นเรามองตลาดอยู่ระหว่างการทยอยปรับพอร์ตรับผลประกอบการ 3Q24 และ Outlook 4Q24-2025 หลังการประชุมนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม เราคาดโมเมนตัมกำไรและเศรษฐกิจไทยจะเร่งตัวอีกครั้งใน 4Q24 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว รวมถึงปี 2025 ที่มองภาคการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโตนอกจากนี้ยังมี Upside หากกนง.ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่วน Downside คาดว่ายังถูกจำกัดจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1
กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : MAGURO, MTC, OSP, SFLEX, VIH
FSSIA Portfolio: AOT, CHG, CPALL, CPN, ITC, KCG, KTB, MTC, NSL, SFLEX, SHR
หุ้นเด่น Finansia 28 พ.ย. 24 : BDMS
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 36.50 บาท
- เราคาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q24 จะชะลอ q-q ตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาด y-y ยังเติบโตได้ในระดับที่ดี แม้เดือน ต.ค. รายได้ผู้ป่วยไทยจะดูทรงตัว แต่ต่างชาติยังแข็งแกร่งและยังเห็นการเติบโต Double Digit
- การเปลี่ยนแปลงระบบส่งต่อผู้ป่วยของ UAE ไม่ได้กระทบต่อ BDMS โดยยังเห็นการเติบโตที่ดี ขณะที่ EBITDA Margin คาดยืนเหนือ 24% ได้ต่อเนื่อง เราคาดกำไรปี 2024-25 เติบโตเฉลี่ย +11% ต่อปี ราคาหุ้นปรับลงทำให้เทรด 2025PER เพียง 23 เท่า ต่ำกว่าในอดีตที่ปกติเทรดในกรอบ 25-30 เท่า
- แนวรับ 25.50-25//24 บาท แนวต้าน 27//28 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคสุทธิหนาแน่น US$1,509 ล้าน เม็ดเงินไหลออกกระจุกตัวที่ไต้หวัน US$1,275 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$236 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลออกจากฟิลิปปินส์และไทยบางๆ แต่ยังไหลเข้าเวียดนาม แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกแต่ปริมาณเบาบางลง ภาพรวมตลาดขาดปัจจัยใหม่ ขณะที่สหรัฐฯ เข้าสู่ช่วงหยุด Thanksgiving
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) กลุ่มโรงไฟฟ้า กกพ. จะประกาศลดค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2025 เป็น 4.15 บาท/หน่วย จากงวดปัจจุบันที่ 4.18 บาท/หน่วย เราเชื่อว่าจะกระทบต่อ Margin ของบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเล็กน้อยหรือจำกัด เพราะปกติค่าไฟฟ้าจะเป็นการปรับตามค่า Ft ที่ผันแปรตามต้นทุนราคาก๊าซฯ ที่คาดจะปรับลง ดังนั้น Margin ของโรงไฟฟ้า SPP ยังคงเท่าเดิม แต่อาจได้ประโยชน์ที่ลดลงเล็กน้อยจากก่อนหน้านี้ที่ต้นทุนราคาก๊าซฯ ลง ขณะที่ค่าไฟฟ้าคงที่ ระยะสั้นราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าได้ปรับลงสะท้อนข่าวนี้ไปแล้ว ส่วนระยะกลางยาวพื้นฐานยังดี
(0) ICHI คาดกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 339 ลบ. -5% q-q และ +15% y-y จาก low season ของธุรกิจ และรายได้ส่งออกยังไม่ฟื้นตัว ทำให้คาดรายได้ทั้งปี 2024 ต่ำกว่าเป้าบริษัทเล็กน้อย เราจึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 ลง 2-9% ทำให้กำไรปี 2024 +31% y-y และปี 2025 +3% y-y หนุนจาก New production line คาดแล้วเสร็จสิ้นปี 2024 และลดราคาเป้าหมายเป็น 19.20 บาท Valuation ถูก ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PE เพียง 13 เท่า พร้อม Div. Yield 7-8% คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(+) ILM เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 4Q24 ทรงตัว y-y แม้รายได้จะมีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่คาดค่าใช้จ่ายจากการเตรียมเปิดสาขาใหม่จะสูงขึ้นเช่นกัน แนวโน้ม SSSG ใน 4QTD ยังบวกได้ราว 0-1% โดยเดือน ต.ค. เห็นเป็นบวกราว 1% และทรงตัวในเดือน พ.ย.24 สำหรับปี 2025 ผู้บริหารยังคาดหวังการเติบโตของยอดขาย 10% และมีแผนการเปิดสาขาของร้าน Index living mall จำนวน 3 สาขา เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 +10% y-y และราคาเป้าหมาย 22 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 138.25 จุด หรือ -0.31%, ปิดที่ 44,722.06 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนลบเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มรถยนต์ของยุโรป ขณะที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการผลักดันงบประมาณ
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกสลับลบ หลังตลาด S&P 500 และตลาดดาวโจนส์ปิดลบเมื่อวาน จากความกังวลเรื่องการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.52 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.61%
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินที่สูงเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงในขณะที่เช้านี้ลดลงอยู่ที่ระดับ 68.69 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.04%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 18.60 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 2,664.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวก หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้ลดลงอยู่ที่ระดับ 2,657.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ -0.27%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 878.55/ -0.10%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28 พ.ย. | เยอรมัน: เงินเฟ้อ (ต.ค.) |
29 พ.ย. | ยูโรโซน: เงินเฟ้อ (ต.ค.) อินเดีย: 3Q24 GDP growth แคนนาดา: 3Q24 GDP growth ไทย: รายงานเศรษฐกิจจากแบงก์ชาติ |
30 พ.ย. | จีน: NBS Manufacturing PMI (พ.ย.) |
02 ธ.ค. | สหรัฐ: ISM Manufacturing PMI (พ.ย.) จีน: Caixin Manufacturing PMI (พ.ย.) |
03 ธ.ค. | สหรัฐ: JOLT Job Opening (ต.ค.) |