Daily Focus: ยังอยู่ในช่วงชะลอตัวลงหาระดับ 1,400+- จุด
2025 SET Target: 1600
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังคงชะลอตัวลงต่ออีกเล็กน้อยตามคาด ปิดลบ 2.39 จุด ที่ระดับ 1,428.01 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังทรงตัวต่ำราว 3.6 หมื่นลบ. ภาพรวมตลาดขาดปัจจัยใหม่และสหรัฐฯ อยู่ในช่วงวันหยุด Thanksgiving สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 241 ลบ.และ 864 ลบ. ตามลำดับ (สถานะใน Index Futures ไม่มีนัยยะนัก)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways to Sideways Down พักตัวลงต่อเนื่อง หลังสู่แนวรับหลักบริเวณ 1,400+- จุด โดยภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ขณะที่ประเด็นกดดันยังคงมาจากความเสี่ยงของนโยบายขึ้นภาษีสินค้าของทรัมป์ ซึ่งจะกระทบและสร้างความผันผวนให้เศรษฐกิจโลก รวมถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ FED ที่อาจลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด โดยต้องติดตาม Comment และ Dot Plot ในการประชุมเดือนหน้าว่าจะปรับลงจากครั้งล่าสุดที่มอง 100 bps ลงมาสะท้อนคาดการณ์ของตลาดปัจจุบันที่ราว 50-60 bps มากน้อยเพียงใด ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการประชุมครม.สัญจรวันนี้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ ระยะสั้นเรามองตลาดอยู่ระหว่างการปรับพอร์ตเพื่อตอบรับผลประกอบการ 3Q24 และ Outlook 4Q24-2025 หลังการประชุมนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ตาม เรายังคาดหวังโมเมนตัมกำไรและเศรษฐกิจไทยจะทยอยเร่งตัวอีกครั้งใน 4Q24 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว รวมถึงปี 2025 ที่มองภาคการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโต นอกจากนี้ยังมี Upside หากกนง.ลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ส่วน Downside คาดว่ายังถูกจำกัดจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ 1
กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : MAGURO, MTC, OSP, SFLEX, VIH
FSSIA Portfolio: BA, CHG, CALL, KTB, MTC, NSL, RBF, SEAFCO, SHR, WHA
หุ้นเด่น Finansia 29 พ.ย. 24 : SNPS
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท
- ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมการผลิตและจำหน่ายสารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และสุขอนามัย ทั้งในรูปของ ODM และ OBM จุดแข็งอยู่ที่ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและบริการครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา วิจัยคิดค้นและพัฒนาสูตร ออกแบบบรรจุภัณฑ์ จนถึงการขึ้นทะเบียนและต่อทะเบียนสินค้ากับอย.
- เราคาดกำไรปี 2024-26 +36% CAGR จากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ การออกสินค้าใหม่ทั้งลูกค้าและกลุ่มบริษัทเอง (SNPS เพิ่งเริ่มจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสูตรครบถ้วน แบรนด์ของบริษัทเอง Colosure ปลายปี 2021) การขยายตลาดรวมถึงไปต่างประเทศมากขึ้น
*** Finansia เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ SNPS ***
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาคอีก US$649 ล้าน เม็ดเงินไหลนำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$411 ล้านและ US$162 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินส่วนใหญ่ยังไหลออกสูงสุดที่อินโดนีเซีย US$53 ล้าน แต่ยังไหลเข้าเวียดนามบางๆ แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ายังคงไหลออกต่อเนื่อง ภาพรวมยังขาดปัจจัยบวกและตลาดยังกังวลและจับตาผลกระทบจากนโยบายขึ้นภาษีสินค้าของทรัมป์
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) กลยุทธ์ลงทุนปี 2025 “เฟ้นหาโอกาสท่ามกลางความเสี่ยง” เราคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงมีความยึดหยุ่นและนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อในปี 2025 อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงสำคัญยังคงเป็นการกลับมาของนโยบายการค้าของทรัมป์และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจไทยจะยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องโดยมีความสมดุลมากขึ้นจากทุกๆเครื่องบนต์ นำโดยการลงทุนที่แข็งแกร่งขึ้นและการบริโภคที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี เราประเมิน SET Target ปี 2025 ที่ 1,600 โดยเลือกหุ้น Top Pick ปี 2025 ได้แก่ BA, CHG, CPALL, KTB, MTC, NSL, RBF, SEAFCO, SHR และ WHA
(+) SAPPE คาดรายได้ 4Q24 เพิ่มขึ้น 2.5% q-q, 30% y-y ทำให้รายได้ทั้งปี 2024 เติบโตตามเป้าหลักๆ มาจากตลาดอินโดนีเชียและตะวันออกกลางที่ฟื้นตัวสำหรับปี 2025 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15-20% อีกทั้งโรงงานใหม่จะเริ่มผลิตได้ใน 2025 เรายังคาดกำไรสุทธปี 2024+24% y-y แต่ด้วยคำสั่งซื้อที่ฟื้นตัวต่อเนื่องไปถึง 1Q25 เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธปี 2025 ขึ้น 9% เป็น 1.49 พันลบ. +12.2% y-y และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2025 เป็น 97 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”
(+) BCH โทนประชุมเป็นบวกเล็กน้อย ผบห. กล่าวว่า แพทยสภาเห็นชอบการเปลี่ยนวิธีการจ่ายของผู้ป่วยประกันสังคมเป็นแบบคงที่ ที่ 12,000/RW โดยจะมีผลตั้งแต่ปี 2025และจะนำเสนอบอร์ดประกันสังคมอนุมัติอย่างเป็นทางการภายในเดือน ธ.ค. นี้ แต่สำหรับปี 2024 บริษัทคาดว่าประกันสังคมไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะจ่ายในอัตรา 12,000/RW ซึ่งจะกระทบด้านลบกับกำไรใน 4Q24 ส่วนประเด็นรัฐบาลคูเวตนั้น BCH ยังเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในโรงพยบาลที่ถูกเลือก คงประมาณการและราคาเป้าหมาย 21 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
(0) ตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด Thanksgiving
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น โดยตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 2 วันจากความวิตกเกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และปัญหาด้านการเมืองและเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ขณะที่นักลงทุนจับตารายงาน ข้อมูลเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
(-) ตลาดหุ้นเอเชียส่วนมากเปิดในแดนลบ หลังการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ของโตเกียวและตัวเลข industrial production ของเกาหลีใต้
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.25%