Daily Focus: เริ่มเห็นฐานบริเวณ 1,420 จุดและรีบาวด์ระยะสั้น
2025 SET Target: 1600
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index พักตัวลงหาฐานที่เราประเมินบริเวณ 1,420 จุด ก่อนจะรีบาวด์ได้อย่างแข็งแกร่ง ปิดบวก 9.57 จุด ที่ระดับ 1,437.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังเบาบาง 3.5 หมื่นลบ. โดยมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่หนุนตลาด เช่น DELTA TRUE AOT CPALL GULF เป็นต้น สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 1.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิบางลงเหลือ 415 ลบ. (แต่พลิกมา Long Index Futures 1.12 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัวระยะสั้นต่อเนื่อง หลังเริ่มเห็นแรงซื้อต่อเนื่องในช่วง 3 วันที่ผ่านมาจากระดับ 1,420+- จุด โดยประเมินมีโอกาสลุ้นรีบาวด์เข้าหาระดับ 1,445+- จุด หนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างเป็นบวก ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของทั้งจีนและสหรัฐฯเดือน พ.ย. ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังดูค่อนข้างแข็งแรง ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯย่อตัวลงเล็กน้อยซึ่งไม่เป็นแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ตามยังมอง Upside ดัชนีไม่กว้างนัก โดยยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ปลายสัปดาห์ ซึ่งจะมีผลต่อการประชุม FED ครั้งสุดท้ายของปีวันที่ 18 ธ.ค. ระยะสั้นเรามองแนวโน้มตลาดเดือน ธ.ค. จะแกว่งตัว Sideways หลังจากปรับพอร์ตตอบรับผลประกอบการ 3Q24 และ Outlook 4Q24-2025 และคาดมีแรงหนุนจากเม็ดเงิน SSF TESG ท้ายปี รวมถึง VAYU1 ที่คาดช่วยจำกัด Downside บริเวณ 1,400 จุด ขณะที่ภาพเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงทยอยเร่งตัวใน 4Q24 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว รวมถึงปี 2025 ที่มองภาคการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโต นอกจากนี้ให้ติดตามการประชุมครม.ช่วงที่เหลือของปีว่าจะมีมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายเพื่อลดหย่อนภาษีออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ซึ่งจะเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก
กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว
หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : AAV, BDMS, CPALL, MAGURO, RBF
FSSIA Portfolio: BA, CHG, CALL, KTB, MTC, NSL, RBF, SEAFCO, SHR, WHA
หุ้นเด่น Finansia 3 ธ.ค. 24 : AAV
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท
- ประเด็นปัญหาการจองตั๋วเกิดจาก Application ของ AirAsia Move (ถือหุ้นโดย Capital A โดย AAV ไม่ได้เป็นถือผู้ถือหุ้น) เราคาดเป็น Sentiment ลบกดดันเพียงชั่วคราวและอยู่ระหว่างการคืนเงินแก่ลูกค้าโดยเร็วที่สุด
- ด้าน Operation แนวโน้มกำไร 4Q24-1Q25 คาดจะเติบโตโดดเด่นจาก High Season ของภาคการท่องเที่ยวไทย ล่าสุดจำนวนผู้โดยสานเดือน ต.ค.-พ.ย. เติบโต +6% y-y และคาดว่าจะจบมากกว่า 5.5 ล้านคนที่ทำได้ช่วง 1Q24 โดย Load factor ของ Domestic และ International ยังแข็งแกร่งที่ 92% และ 84% ตามลำดับ ราคาหุ้นที่ปรับลงเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน
- แนวรับ 2.70-2.68//2.64 บาท แนวต้าน 2.82-2.86//2.96 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคสุทธิ US$448 ล้าน แต่กระจุกที่ไต้หวันประเทศเดียว US$559 ล้าน ส่วนเกาหลีใต้ไหลออกบางๆ ด้านอาซียนเม็ดเงินไหลออกทุกประเทศสูงสุดที่อินโดนีเซีย US$80 ล้าน ตามด้วยไทยและเวียดนามประเทศละ US$12 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่ามีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง หลังตัวเลข PMI ทั้งจีนและสหรัฐฯเดือน พ.ย. ล่าสุดออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ Bond Yield สหรัฐฯไม่ได้ดีด ตัวขึ้นกดดัน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) MAGURO บริษัทตั้งเป้าเป็นสาขาใหม่อย่างน้อย 13 แห่งต่อปีในปี 2024-25 และอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 45% คาดกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 32 ลบ. +9% q-q, +155% y-y หนุนจากรายได้ที่เติบโตต่อเนื่องตามการเปิดสาขาใหม่ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวร้านอาหารแบรนด์ใหม่ทั้ง Tonkatsu Aoki ร้านหมูทอดจิ้มเกลือ และ CouCou เป็นรูปแบบ All-day Dining ในเดือน ธ.ค. เราคาด SSSG จะดีขึ้นมาอยู่ที่ 5% y-y จากการฟื้นตัวทั้ง Hitori และ Maguro เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2024-25 ขึ้น 11-12% เป็นเติบโต 30% Y-y และ 43% y-y ตามลำดับ และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 24.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) PR9 สัดส่วนของรายได้ผู้ป่วยต่างประเทศเพิ่มเป็น 18% ใน 3Q24 เทียบกับ 15%ในช่วง 1H24 และอาจเพิ่มเป็น 20% ในปี 2025 โดยเราคาดว่ารายได้จะโตอีก 9% ในปี 2025 จากรายได้จากผู้ป่วยต่างประเทศ +25% y-y และผู้ป่วยชาวไทย +6% y-y EBITDA margin น่าจะดีขึ้นจาก 24% ในปี 2024 เป็น 25% ในปี 2025 เราจึงปรับเพิ่มประมาณกำไรปักติปี 2024-26 ขึ้น 6-8% ทำให้คาดกำไรปกติปี 2025 +15% y-y โดยอาจมี Upside จากรายได้ผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง ได้ราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 30 บาทแนะนำ “‘ซื้อ”
(0) EA ประกาศเพิ่มทุน 4,973 ล้านหุ้น ให้ผู้ถือหุ้นเดิม 1:1 ที่ราคา 2 บาท ผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนจะได้ EA-W1 อัตราสวน 3 หุ้นเพิ่มทุน : 1 EA-W1 ฟรี (อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ที่ ราคา 4 บาท อายุ 3 ปี) ขึ้นเครื่องหมาย XR 13 ธ.ค. 2024 ชำระเงิน 17-23 ม.ค. 2025 EA จะได้เงินราว 7.46 พันลบ. วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1) คืนหนี้สถาบันการเงินและไถ่ถอนหุ้นกู้ ภายในปี 2027 6.66 พันลบ. 2) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 300 ลบ. 3) ใช้ในโครงการที่ดำเนินอยู่ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานขยะที่ภูเก็ต 9.9MW 500 ลบ. ส่วน EA-W1 ถ้า exercise ทั้งหมด บริษัทจะได้รับเงิน 4.97 พันลบ. รองรับการใช้เงินในระยะกลาง ราคาหุ้นจะถูก Dilute 33% เป็น 3.925 บาทจากราคาปิดวานนี้ 5.85 บาท ส่วน Book value จะถูก Dilute ราว 50% เป็น 5.34 บ. จาก 10.39 บ. ณ สิ้น 3Q24
(0) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50/100 งวด 1H25 สำหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า BANPU SAWAD COM7 CCET หุ้นออก TIDLOR CENTEL BCP EA ส่วนด้าน SET100 คาดหุ้นเข้า CCET JTS TVO AURA หุ้นออก MBK SKY TIPH RBF โดยตลท.จะประกาศอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือน ธ.ค.
(0) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 128.65 จุด หรือ -0.29%, ปิดที่ 44,782.00 จุด ในขณะที่ Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ขณะที่นักลงทุนประเมินภาวะเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในเดือนสุดท้ายของปีนี้
(+) ตลาดเอเชีย เปิดบวกหลัง Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่า อยู่ที่บริเวณ 34.53 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 0.64%
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 68.10 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของจีน อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนนี้ ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 68.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.10%
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 22.50 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 2,658.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยฉุดตลาดนอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยข้อมูลแรงงานในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 2,665.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.25%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 875.96/ -0.29%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 ธ.ค. | สหรัฐ: JOLT Job Opening (ต.ค.) |
4 ธ.ค. | สหรัฐ: ISM services PMI (พ.ย.) ออสเตรเลีย: 3Q24 GDP growth |
5 ธ.ค. | สหรัฐ: Initial Jobless Claims (พ.ย.) กลุ่มโอเปก: ประชุม OPEC และ Non- OPEC Ministerial |
6 ธ.ค. | ไทย: เงินเฟ้อ (พ.ย.) สหรัฐ; Non-Farm Payrolls (พ.ย.) |
7 ธ.ค. | จีน: ส่งออก (พ.ย.) |