ติดตามการมาไทยของผู้บริหารใหญ่ NVIDIA
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 76.5 จุด (-0.17%) ท่ามกลางการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวังก่อนที่จะมีการจ้างงานเปิดเผย แต่ S&P500, Nasdaq ยังคงปิดทำ New High ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Tech ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.5% หลังจากอิสราเอลขู่ว่าจะโจมตีเลบานอน
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ รายงานตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน (Job Opening) พบว่าอยู่ที่ 7.74 ล้านตำแหน่ง ดีกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 7.5 ล้านตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พลิกมาปรับขึ้นเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามความเห็นจาก CME FED Watch ยังคงเชื่อว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน ธ.ค. สำหรับปัจจัยในประเทศวานนี้ มีผลประชุมคณะรัฐมนตรีพบว่ามืนโยบาย (1) อนุมัติเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครัวเรือนละ 9 พันบาท รวมกรอบวงเงิน 5 พันล้านบาท (2) เงินสนับสนุนเกษตรการไร่ละพันตั้งเป้าหมาย 4.6 ล้านครัวเรือน (3) ขยายเวลาจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากสินค้านำเข้า ที่ราคาไม่เกิน 1,500 บาท ประเมินเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (GLOBAL DOHOME CPALL) ขณะเดียวกันกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวสะสม 1 ม.ค. – 1 ธ.ค. พบว่าอยู่ที่ 32 ล้านบาท (+28%YoY) โดยที่ 1 วันแรกของเดือน ธ.ค. เข้ามาที่ 1 แสนราย ซึ่งน่าจะทำให้ทั้งเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1 ล้านรายและทำให้ทั้งปีคาดว่าจะอยู่ราว 35 ล้านราย (ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งเป้าหมายไว้ ) คงมุมมองเชิงบวกกับกลุ่มอิงการท่องเที่ยว อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) โรงแรมและสนามบิน (AOT CENTEL MINT) นอกจากปัจจัยข้างต้นแล้ววานนี้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวคิดปรับโครงสร้างภาษีไทย โดยกำลังสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเกี่ยวกับภาษีนิติบุคลล เพราะประเมินว่าวันนี้ทั่วโลกเก็บอยู่ที่ 15% แต่ไทยเก็บอยู่ที่ 20% แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมองว่าจะหารายได้มาชดเชยอย่างไรจึงเล็งเห็นว่าปัจจุบันเก็บ VAT อยู่ที่ 7% แต่ทั่วโลกจัดเก็บในช่วง 15-25% หากปรับขึ้น VAT จะช่วยลดช่องว่างรายได้ระหว่างคนรวยกับคนฐานะกล่างๆ อิง Model การปรับ VAT ของญี่ปุ่นพบว่าทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมาพร้อมกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลดลง แต่อย่างไรก็ดียังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารัฐบาลจะทำหรือไม่
วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1450 – 1465 ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับขึ้นมาสอดคล้องกับที่เราประเมินไว้ และยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ต่อหนุนจากกระแสเงินทุนในประเทศประกอบกับเศรษฐกิจไทยค่อยๆฟื้นตัว วันนี้แนะติดตามการมาไทยของ CEO NVIDIA เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังแนะเก็งกำไรได้เช่นเดิมเน้นที่กลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
มีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรปกติใน 3Q24 ที่ 2.6 พันล้าน (+16% YoY, -18% QoQ) เติบโตจากรายได้ต่อห้องพัก (RevPar) ที่สูงขึ้น และอ่อนตัว QoQ จากฐานที่สูงใน 2Q24 จากงาน UEFA Euro และ Olympic Game ที่หนุนอัตราการเข้าพัก ทั้งนี้ใน 4Q24 เรามองว่าจะเติบโต YoY จาก RevPar ที่สูงขึ้น แต่จะอ่อนตัว QoQ ต่อเนื่องจากธุรกิจโรงแรมในยุโรปตามปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่ถึงแม้ในปี 2025 จะยังมีความท้าทาย แต่เราคาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 16.3% จากการปรับอัตราราคาที่พักต่อคืน (ADR) ที่สูงขึ้นหลังมีการปรับปรุง และยกระดับตำแหน่งของแบรนด์ในธุรกิจโรงแรมใหม่
BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 168.00 บาท)
เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2024 จะเติบโตที่ 5.7% แต่การเติบโตชะลอลงที่ 2%/4.3% ในปี 2025-26 แม้ว่า NIM จะแนวโน้มลดลง ปัจจัยหนุนการเติบโตมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของตลาดทุน และสำรองหนี้ฯ ลดลง