ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันของ Noble ที่ BBB ชู Backlog 27,000 ล้านบาท ตอกย้ำศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจ

บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ หรือ NOBLE ปลื้ม หลังทริสเรทติ้ง หนุนความเชื่อมั่น คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทฯ ที่ระดับ BBB พร้อมคงแนวโน้มอันดับเครดิต Stable หรือ คงที่ สะท้อนถึงโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ล่าสุด ตุน Backlog ในมือแล้ว 27,000 ล้านบาท  

นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ Noble เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด หรือ ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร ที่ “BBB /Stable” (คงที่) ขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,800 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 3 ปี ที่ระดับ “BBB” เพื่อเสริมศักยภาพฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ในและการลงทุนในอนาคตอย่างมั่นคง

“ทริสฯ พิจารณาการจัดอันดับเครดิตของ NOBLE จากภาพรวมธุรกิจ รวมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทฯ โดยประเมินว่า ศักยภาพทางการตลาดคอนโดมิเนียมมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับทุกโครงการของ NOBLE สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครบทุกมิติ ตั้งแต่ราคาที่เข้าถึงได้ ระดับกลางจนถึงระดับไฮเอ็นด์ ส่งผลให้สินค้าเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งสอดรับกับยอดขายรอการรับรู้รายได้ (Backlog) ณ ปัจจุบันที่สูงถึง 27,000 ล้านบาท สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคตมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยทริสฯ จัดอันดับเครดิตในครั้งนี้ คงอันดับเครดิตองค์กร ที่ “BBB /Stable” เนื่องจากถูกกดดันจากระดับหนี้สินของบริษัทฯที่สูง รวมถึงผลการดำเนินงานที่มีความผันผวน ประกอบกับอัตรากำไรที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง”

ทริสฯ ยังระบุอีกว่า NOBLE มีศักยภาพที่แข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการชั้นนำด้านคอนโดมิเนียม ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่ยอมรับ ประกอบกับทุกทำเลของโครงการมีศักยภาพสูง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และมีการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนในแต่ละโครงการ ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวทำให้ NOBLE มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นในตัวเลขงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่มียอดขายโครงการ (Pre-sale) แตะระดับ 13,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมเกือบทั้งหมด ทริสฯ คาดว่า NOBLE จะสามารถสร้างยอด Pre-sale ในปี 2568-2569 ได้ประมาณ 9,000-12,000 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ยังได้ประเมินว่า NOBLE จะสามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมายที่ประเมินไว้ในช่วงปี 2567-2569 ภายใต้สมมติฐานที่คาดว่ารายได้ จากการดำเนินงานของบริษัทฯ จะอยู่ที่ระดับ 9,000-11,000 ล้านบาทต่อปี โดยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นประมาณ 60%-70% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด

“ในปี 2567 คาดว่า NOBLE จะมีอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น และต่อเนื่องไปในปี 2568 จากแนวโน้มการโอนของโครงการที่มีอัตรากำไรในระดับสูงทั้งในส่วนของคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบบางโครงการที่รอรับรู้รายได้ตามแผน ดังนั้นจึงคาดว่า EBITDA จะอยู่ที่ระดับ 1,500-2,000  ล้านบาท”

ทั้งนี้ จาก Backlog ที่ระดับ 27,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2567 ถึงปี 2571  โดยทริสฯ คาดว่าในปี 2568 จะสามารถรับรู้เป็นรายได้มูลค่า 9,000 ล้านบาท ส่วนปี 2570-2571 จะสามารถรับรู้เป็นรายได้มูลค่า 5,500 – 6,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนในปี 2569 คาดว่ารายได้และกำไรจากการขายมาจากโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว และโครงการเดิมที่รอการขายและพร้อมเข้าอยู่ ณ เดือนกันยายน 2567 มูลค่ารวม 9,200 ล้านบาท จากยอด Backlog ดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้หรือส่วนแบ่งกำไรจากโครงการภายใต้การร่วมทุนได้ต่อเนื่องและมั่นคง ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของ NOBLE ในอนาคต

“NOBLE มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยใน 12 เดือนข้างหน้าบริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอ ณ เดือนกันยายน 2567 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่ากับเงินสด 2.1 พันล้านบาท และวงเงินกู้ยืมที่ยังไม่ได้เบิกใช้ 2.4 พันล้านบาท ขณะที่เงินทุนจากการดำเนินงานคาดว่าจะอยู่ที่ 1 พันล้านบาทช่วง 12 เดือนข้างหน้า”

- Advertisement -