ปลุกความหวัง ด้วยพลัง AI / 1,445-1,465
SET คาดปรับตัวขึ้น : ด้วยแรงหนุนจากการเดินหน้า พัฒนาอุตสาหกรรม AI ไทยจาก NVIDIA ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด และการปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นที่เกี่ยวข้อง
กลยุทธ์การลงทุน
1) Data center และ AI:
- โทรคมนาคม: ADVANC, INTUCH, TRUE
- นิคมฯและโรงไฟฟ้า: AMATA, BGRIM, GPSC, GULF, WHA, ROJNA
- อื่นๆ: BBIK, BE8, SECURE, INSET, ITEL
- Bit Coin : BROOK, TTA, JTS, XPG
2) มาตรการรัฐ+หวังมาตรการแก้หนี้: BBL, CPALL, CRC, KBANK, KTB,MTC, SCB, TTB
3) ท่องเที่ยว : CENTEL, ERW, LH, MINT, SPA
- AI อนาคตของไทย และ มนุษยชาติ : คุณ Jensen Huang ได้ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ในงาน AI Vision for Thailand โดยได้ให้ความเห็นว่า AI จะเข้ามาเป็นปัจจัยหลักของทุกคนในอีก 3 ปี โดยมีเพียง 20 ประเทศในโลกที่เริ่มสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการพัฒนา AI คือ ข้อมูล จึงเป็นโอกาสสำคัญที่จะสร้างปัญญาประดิษฐ์แบบพึ่งพาตนเอง (Sovereign AI) ขึ้นในไทย เพื่อเป็นทรัพยากรอันล้ำค่าของไทยเท่านั้น โดยจะผลักดันให้ AI ถูกบรรจุในทุกมหาวิทยาลัย และเตรียมสร้างนวัตกรรมใหม่ คือ Thai AI และ Thai GPT โดยใช้องค์ความรู้ของ NVIDIA เพื่อให้ไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลก พร้อมเดินหน้าสนับสนุนบริษัท Start Up AI ในไทยกว่า 60 แห่ง มองเป็นบวกกับหุ้นในห่วงโซ่อุปทาน AI เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ กลุ่ม ICT กลุ่มนิคมฯ กลุ่มโรงไฟฟ้า และ กลุ่มเทคโนโลยี เช่น BBIK BE8 และ SECURE
- ประธานเฟดส่งสัญญาณปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป : โดยประธานเฟดชี้ว่าเฟดยังคงมีความเป็นอิสระในการตัดสินใจและย้ำจุดยืนว่ายังเดินหน้าบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงาน และเสถียรภาพทางราคา โดยเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปัจจุบันค่อนข้างเป็นที่น่าอิจฉาของประเทศยักษ์ใหญ่อื่นๆ จึงทำให้เฟดยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไปต่อไปได้ ด้านตลาดยังให้น้ำหนักกว่า 74% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในรอบประชุมเดือน ธ.ค. 67 เป็นบวกต่อภาพรวมตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
- ราคา Bitcoin ทะลุ 1 แสนดอลลาร์เป็นครั้งแรก : โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่เหรียญละ 1.037 แสนดอลลาร์ หลังทรัมป์เผยมีแนวโน้มแต่งตั้งคุณ Paul Atkins หนึ่งในผู้ก่อตั้ง และกรรมการบริหารของบริษัท Token Alliance ขึ้นเป็นประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ เป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล
- สัปดาห์หน้าจับตา : CPI/PPI (พ.ย.) ดุลการค้า(พ.ย.) จีน, GDP (3Q67) ญี่ปุ่น, CPI และ PPI (พ.ย.) สหรัฐ, การแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาลไทย และดัชนีความเชื่อมันผู้บริโภคไทย (พ.ย.) ส่วนคืนนี้จับตา : ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐ (พ.ย.)
PICKS OF THE DAY
ERW BUY
- เป้าหมาย 4.24 / 4.30 แนวรับ 4.08
- โรงแรมใหม่ปี 2573: ERW เข้าทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว 60 ปี (สัญญา 30+30 ปี) มูลค่า 6,100 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงแรมระดับ premium-economy ถึง upscale ย่านพร้อมพงษ์ บริษัทฯ คาดเปิดให้บริการภายในปี 2573 ทางฝ่ายมองโรงแรมใหม่นี้จะช่วยหนุนความเชื่อมั่นของ ERW ในอนาคต เหตุจากค่าเช่าคงที่
- คาดรายได้โรงแรม 4Q67 สดใส : รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยจำนวนนักท่อง เที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสม สะสมวันที่ 1 ม.ค.-1 ธ.ค 67 รวม 32 ล้านคน นำโดยนักท่องเที่ยวชาวจีน ราว 6.2 ล้านคน สำหรับรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 1.5 ล้านบาท ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงบวกกับ ERW คาด 4Q67 รายได้ธุรกิจโรงแรมโต y-y,q-q หนุนจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวตามปัจจัยฤดูกาล และปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
LH BUY
- เป้าหมาย 5.60 / 5.75 แนวรับ 5.40
- 4Q67 คาดรายได้รวมสูงขึ้น q-q จากธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก: 4Q67 เปิดตัว 6 โครงการ รวมมูลค่า 1.2 หมื่นลบ. ส่วนใหญ่เปิดในช่วง ต.ค. ทำยอดขายภายในเดือนไป 1.5 พันลบ. ยังถือว่าไม่ได้สูง แต่คาดว่าจะโอนได้ทันบางส่วนทำให้รายได้อสังหาฯยังคงทรงตัว q-q แต่รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงแรมเป็นหลักที่เป็นช่วง high season ซึ่งมีสัดส่วน 30% ของรายได้รวม
- กำไรฟื้นตัว q-q ได้ดีจากกำไรพิเศษเข้ามาช่วย: คาดกำไร 4Q67 จะเพิ่มขึ้น q-q ได้ดี หลักมาจากการขายศูนย์การค้า Terminal21-พัทยา เข้า REIT คาดมีกำไรก่อนภาษี 2.1-2.2 พันลบ. แต่กำไรยังอ่อนตัวหากเทียบ y-y คาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นได้ตามทิศทางของกำไรที่ปรับตัวขึ้นได้ดีหากเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า