เปิดคำแถลงการณ์ “นอท กองสลากพลัส” ซื้อ Big Lot หุ้น EE จำนวน 1,607 ลบ.

จากกระแสข่าวและคอมเม้นต์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเข้ามาถือหุ้นในบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘EE’ ซึ่งได้มีการรายงานตามกระบวนการขั้นตอนที่กำหนดไว้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 แบบ Big Lot จำนวน 1,607,000,000 หุ้นคิดเป็นสัดส่วน 57.81% ของทุนชำระแล้วของบริษัท โดยผู้ดำเนินการเพิ่มทุนคือ นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันในนาม “นอท กองสลากพลัส” ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับได้รับสิทธิ์บริหารตามสัดส่วนการถือหุ้นในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท

นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) น้อมส่งคำชี้แจงถึงการเข้าเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้นในครั้งนี้ว่า “การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรับตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘EE’ ถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางการทำงานของผม ผมมองเห็นศักยภาพและโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทในธุรกิจด้านเทคโนโลยี และเชื่อมั่นว่า ‘EE’ จะสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยการบริหารที่โปร่งใส มีเป้าหมายที่ชัดเจน และการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ผมตั้งใจที่จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและผลักดันให้ ‘EE’ กลายเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือในระดับประเทศได้”

“ผมขอเน้นย้ำถึงความโปร่งใสและความตั้งใจที่จริงจังในการบริหารงานภายใต้ความร่วมมือจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ การตัดสินใจทุกอย่างจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรอบคอบและผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกคน ผมให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา และพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่เหมาะสมและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว”

“ผมทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้เกิดคำถามและความกังวลในบางกลุ่ม แต่ผมขอให้คำมั่นว่าผมและทีมงานทุกคนจะทำงานอย่างเต็มความสามารถและโปร่งใส เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่นคงของบริษัทในอนาคต ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในตัวผม และผมจะใช้โอกาสนี้สร้างผลงานที่จับต้องได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายและนำพา ‘EE’ ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความสำเร็จร่วมกัน”

ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยซึ่ง จะมีการจัดการประชุมกรรมการบริหาร เพื่อหารือและลงมติถึงการเข้าทำธุรกิจใหม่ ให้นำพาสู่รายได้และกำไรอันสูงสุด โดยบริษัทฯจะมีการรายงานคำชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมถึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบในช่องทางข่าวสารอย่างเป็นทางการของบริษัทต่อไป

- Advertisement -