ธนาคารอาจคึกคัก ก่อนวันรัฐธรรมนูญ / 1,445-1,460

SET คาดบวกได้เล็กน้อย: ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มธนาคารรับมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ และแรงเข้าซื้อกองทุน TESG แต่อาจมีแรงกดดันจากการที่อยู่ในช่วงคาบเกี่ยววันหยุด และการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบ

กลยุทธ์การลงทุน

  1. มาตรการรัฐ และ มาตรการแก้หนี้: KKP, TTB, KBANK, SCB, CPAXT, CRC, MTC
  2. TESG: AOT, CPN, BDMS, CPALL
  3. ท่องเที่ยว : CENTEL, ERW, LH, MINT, SPA
  4. Data center และ AI:
    1. โทรคมนาคม: ADVANC, INTUCH, TRUE
    2. นิคมฯและโรงไฟฟ้า : AMATA, GPSC, GULF, WHA
    3. อื่นๆ: BBIK, BE8, INSET

ลุ้นแรงหนุนกลุ่มธนาคารจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ : ตลาดรอจับตาการประกาศแผนช่วยเหลือลูกหนี้ในต้นสัปดาห์ โดยล่าสุดปลัดกระทรวงการคลังเผยพร้อมที่จะประกาศรายละเอียดของแผนและคาดแรงจูงใจจากเม็ดเงินกองกลางจากเงิน FIDF จะช่วยทำให้ธนาคารพาณิชย์เดินหน้าปรับโครงสร้างหนี้ตามที่รัฐบาลต้องการ โดยสัดส่วนที่ธนาคารพาณิชย์จะได้รับประโยชน์จะขึ้นอยู่กับจำนวนลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ มองในวันนี้หุ้นกลุ่มธนาคารอาจมีแรงเข้าซื้อ เพื่อเก็งกำไรก่อนที่จะมีการประกาศรายละเอียด โดยเฉพาะที่มีสัดส่วนลูกหนี้กลุ่ม SMEs อสังหาฯ และ ยานยนต์ สูง เช่น KBANK SCB TTB และ KKP

เข้าสู่ช่วงลดหย่อนภาษี TESG คึกคัก : ช่วงปลายปีคาดจะเป็นช่วงที่มีเม็ดเงินเข้าซื้อกองทุน TESG เพื่อลดหย่อนภาษี เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีของการซื้อกองทุน TESG นั้นจะหักลดหย่อนเพิ่มอีกไม่เกิน 3 แสนบาท โดยไม่นับรวมกับสิทธิ์ลดหย่อน SSF RMF และกองทุนเพื่อการเกษียณอื่นๆ

ราคาน้ำมันดิบยังเดินหน้าปรับตัวลงสวนมติ OPEC+ : ล่าสุดอยู่ที่ 67.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ OPEC+ ยืนยันจะยังไม่เพิ่มกำลังการผลิต คาดจะกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำ และ โรงกลั้น

คาบเกี่ยววันหยุด อาจฉุดแรงซื้อ : วันนี้เป็นวันทำการของตลาดหุ้นไทยที่อยู่ระหว่างวันหยุดสุดสัปดาห์ และ วันหยุดวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงกับวันอังคาร จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญคือ ตัวเลขดุลการค้าจีนเดือน พ.ย. และตัวเลขผลผลิตนอกภาคเกษตรกรรม 3Q67 ของสหรัฐ จึงอาจมีแรงขายหุ้นออกมาเพื่อจำกัดความเสี่ยงที่อาจตามมาจากการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ

ปัจจัยอื่นที่น่าจับตา : วันนี้จับตา CPI/PPI (พ.ย.) จีน ส่วนปัจจัยอื่นในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดุลการค้า (พ.ย.) จีน, CPI Core CPI และ PPI (พ.ย.) สหรัฐ, การแถลงผลงานครบรอบ 90 วันของรัฐบาลไทย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย (พ.ย.)

+ ปัจจัยเพิ่มเติม –

(+) รัฐบาลเผยเตรียมแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ภายในวันที่ 29 ม.ค.68 และเฟส 3 จะจ่ายช่วง เม.ย.68

(+) ญี่ปุ่นเตรียมเข้าเจรจากับทรัมป์เพื่อขอลดภาษีนำเข้าที่อาจกระทบการส่งออกยานยนต์ของญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนกว่า 1 ใน 3 ของการส่งออกรวมโดยจะแลกเปลี่ยนกับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ มองช่วยจุดความหวังการเจรจาเพื่อลดกำแพงภาษีกับสหรัฐ

(+) REIC เผยอุปสงค์ของบ้านพักคนชราเติบโตแข็งแกร่ง โดยไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุเกิน 60 ปีกว่า 20% ของประชากรไทยในปี 67 มีอัตราการเติบโตกว่า 4.89%y-y มองเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ และโรงพยาบาล ที่ได้เริ่มธุรกิจ Nursing Home แล้วบางส่วน

(-) ประธานหอการค้ายะลาเผยมูลค่าความเสียหายของจังหวัดที่เผชิญน้ำท่วมภาคใต้อาจมากถึง 1 หมื่นล้านบาท ต่อจังหวัด

PICKS OF THE DAY

TTB BUY

  • เป้าหมาย 1.87 / 1.90 แนวรับ 1.80
  • ได้ประโยชน์จากมาตรการแก้หนี้: จากมาตรการแก้หนี้ที่ก.คลัง และ ธปท. จะแถลงในวันที่ 11 ธ.ค. 67 นั้น มุ่งเน้นที่จะแก้ปัญหาหนี้บ้าน รถ และ SME ซึ่งมองว่า TTB จะเป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์เนื่องจาก TTB เป็นเจ้าตลาดสินเชื่อเช่าซื้อ โดยมีสัดส่วนอยู่ถึง 30% ของพอร์ต และมีสินเชื่อบ้านอยู่ 26% ของพอร์ต นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อ SME เป็นสัดส่วน 8% ของพอร์ตด้วย
  • คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น: ถึงแม้ว่า NPL ของ TTB จะยังคงเพิ่มขึ้นอยู่แต่อัตราการเพิ่มก็ลดลงเรื่อย ๆ และ TTB ได้มีการลดระดับการตั้งสำรองลงใน 3Q67 ซึ่งคาดว่าใน 4Q67 น่าจะเริ่มเห็นการลดลงของ NPL ได้ และทำให้การตั้งสำรองจะลดลงได้อีก ส่งผลดีต่อผลประกอบการ

CPAXT BUY

  • เป้าหมาย 37.00 / 37.75 แนวรับ 35.00
  • SSSG ฟื้นตัวใน 4Q67: ใน 3Q67 มีการเปิด Makro สาขาใหม่ 3 สาขาและ Lotus’s Go Fresh 21 สาขา ส่งผลให้มีพื้นที่เพิ่ม 13,753 sq.m. และ 6,448 sq.m. ตามลำดับ นอกจากนี้ QTD SSSG มีแนวโน้มดีขึ้นจาก 3Q67 ที่ประมาณ 2.5-3.5% ทั้ง Makro และ Lotus’s จากฤดูกาลท่องเที่ยวและเงินจากโครงการเติมเงิน 10,000 บาท เฟสที่ 1 อีกทั้ง ระยะถัดไปยังมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากโครงการข้างต้นในเฟสที่ 2 สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 4 ล้านคน ซึ่งคาดว่าผู้ที่ได้รับเงินจะได้รับก่อนวันที่ 29 ม.ค.68
  • หวังของขวัญปีใหม่ 2568: คาดจะได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการแถลงผลงานครบรอบ 90 วันของรัฐบาลในวันที่ 12 ธ.ค.67 ซึ่งอาจเผยถึงของขวัญปีใหม่และนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้ง การเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเดือนพ.ย.67 หากปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 จะเป็นอีก Sentiment ทางบวก

 

- Advertisement -