บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับลง -3.16จุด -0.22% ปิด 1439.89 จุด มูลค่าการซื้อ-ขายที่ 4.1 หมื่นล้านบาท โดย SET ปรับลงสอดคล้องกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่สวนทางกับประเทศในฝั่งเอเซียเหนือที่ปรับขึ้นตามหุ้น Tech ต่างประเทศ โดยแรงกดดัน SET มาจากหุ้นในกลุ่มพลังงงาน (PTTEP, PTT) กลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH) กลุ่มค้าปลีก (CPALL) ฯลฯ กลุ่มหนุนดัชนีนำโดยกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
GULF -1.2% GPSC -3.3 % BGRIM -3.26% RATCH -0.78% EGCO – 0.8%
หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับลงในทางเดียว แรงกดดันหลักมาจาก 1.) Bond yield สหรัฐอายุ 10 ปีปรับขึ้น 3 วันติด +5 bps อยู่ที่ 4.27% 2.)ก๊าซธรรมชาติ NYMEX +6.8%d-d ปิดที่ USD3.378/MMBtu สูงสุดในรอบสัปดาห์เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าอากาศจะหนาวเย็นขึ้นและความต้องการใช้ความร้อนจะสูงขึ้น 3.)ความกังวลเดิม แผนเปิดรับซื้อพลังงานหมุนเวียนล่าช้าหลังจาก รมต.พลังงานสั่งให้ระงับการประมูลการับซื้อพลังงานหมุนเวียน (Feed in Tariff) เฟส 2 กำลังการผลิตรวม 3,600MW นอกจากนี้ยังมีคำสั่งระงับการสรรหา กกพ. ส่งผลกระทบแผน PDP และการเติบโตของกำลังการผลิตไฟฟ้าในบ้านเรา กลยุทธ์ระยะสั้น เน้นตั้งรับสะสม หุ้นโรงไฟฟ้ามากกว่าเพราะประเด็นที่กดดันเป็นปัจจัยชั่วคราว คาด Bond yield ยังเป็นขาลง , ก๊าซขึ้นเพราะเป็นช่วงฤดูกาล
DELTA +2.98%
หุ้นปรับขึ้นมีจิตวิทยาบวกหนุนจาก 1.) หุ้น Tech ต่างประเทศปรับขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Semiconductor สหรัฐปรับขึ้น เป็นจิตวิทยาบวกหนุนราคาหุ้น 2.) DELTA หลุด Cash balance วันแรก เป็นจิตวิทยาบวก 3.) DELTA (Taiwan) Update Delta ไต้หวันรายงานยอดขาย พ.ย. 24 ช่วงต้นสัปดาห์ อยู่ที่ 36.65 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน +8.9%y-y, -5.6%m-m ยังแนะนำเพียง Trading
KTB +0.95% KBANK +1.29%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับขึ้น แรงหนุนจาก 1.)คาดการณ์เศรษฐกิจไทยยังเติบโต งวด 4Q24 คาดจะเร่งขึ้นจาก 3Q24 2.) 1.) Bond yield สหรัฐอายุ 10 ปีปรับขึ้น 3 วันติด +5 bps อยู่ที่ 4.27% เป็นจิตวิทยาบวก
SAWAD +3.82% CCET +5.62%
หนุนจาก SAWAD เป็นหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบ 1H25 (โอกาสเข้า 100%) CCET (โอกาสเข้า 95%) ประกาศในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2024 และมีผลเริ่มใช้ 1 ม.ค. 2025