บล.กสิกรไทย:
Bond Yield ขึ้น ทองขึ้น CME FedWatch มองการลดอัตราดอกเบี้ย 25bps มีโอกาสถึง 95.3% ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรง (WoW) จากการคาดจะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับรัสเซียและอิหร่าน
- สหรัฐ: ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,051.09 (-0.64% WoW) ปรับลดลงรายสัปดาห์จากกลุ่ม Utilities, Material, Industrial ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,926.72 (+0.33% WoW) ปิดบวกต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ติดต่อกัน โดยระหว่างสัปดาห์มีโอกาสไปปิดที่ 20,034.89 จุด จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง Alphabet ที่มีการเปิดตัว Willow และ Broadcom หลังบริษัทคาดการณ์รายได้ไตรมาสนี้สูงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงหุ้น Tesla
- ยุโรป: ดัชนี Euro Stoxx 50 ปิดที่ 4,967.94 (-0.21% WoW) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25bps สู่ระดับ 3% ตามคาด พร้อมปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2568 เหลือ 1.1% จาก 1.3% ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า
- ส่วนธนาคารกลางสวิส (SNB) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 50bps สู่ระดับ 0.5% ประธานาธิบดีมาครงแต่งตั้งฟรองซัวส์ บายรู เป็นนายกฯ ฝรั่งเศสคนใหม่
- ญี่ปุ่น: ดัชนี Nikkei ปิดที่ 39,470.22 จุด (+1.02% WoW) ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ ได้แรงหนุนจากกลุ่มส่งออก การรายงาน GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 0.3% QoQ, 1.2% YoY ด้านผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.8% MoM น้อยกว่าคาดที่ 3.0% แต่สูงกว่าเดือนก่อนที่ 1.6%
- ส่วนค่าเงินเยนอ่อนค่าที่ระดับ 153.68 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ตลาดคาดการประชุม BOJ วันที่ 18-19 ธ.ค. นี้ ยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- จีน: ดัชนี Hang Seng ปิดที่ 19,971.25 (+0.53% WoW) ดัชนี Shanghai ปิดที่ 3,391.87 (-0.36% WoW)
- ตลาดหุ้นจีนเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างสัปดาห์ โดยช่วงต้นสัปดาห์ปรับขึ้นแรงจากท่าทีการผ่อนคลายทางการเงินและการคลัง ทั้งการกระตุ้นการบริโภค การขาดดุลงบประมาณเป็น 4% แนะการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ปรับตัวลดลงแรงในวันศุกร์จากตลาดผิดหวังว่าแผนดังกล่าวยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- ไทย: ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,431.67 (-1.40% WoW) ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล พลังงาน และอสังหาฯ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยตั้งแต่ต้นเดือน 7,263 ล้านบาท
- ตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุน รวมถึงยังคาดหวังนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ติดตามการประชุม กนง. วันที่ 18 ต.ค. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25%
- ทองคำ: ราคาทองคำอยู่ที่ $2,647.38 (+0.61% WoW) ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยรายสัปดาห์ แต่ช่วงต้นสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้นที่ระดับ $2,720 จากข่าวจีนกลับมาซื้อทองคำ หลังหยุดไป 6 เดือน รวมถึงกลุ่มกบฏในซีเรีสยึดเมืองหลวงได้ และอิสราเอลโจมตีซีเรียเพื่อสกัดภัยคุกคาม แต่ปรับตัวลดลงในวันพฤหัส – ศุกร์ หลังสถานการณ์ในซีเรียทรงตัว และค่าเงิน US Dollar Index แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 106.94
- น้ำมัน: ราคาน้ำมัน WTI อยู่ที่ 70.96 (+6.09% WoW) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงรายสัปดาห์ เนื่องจากการคาดการณ์ว่าจะมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมกับรัสเซียและอิหร่านอาจทำให้อุปทานตึงตัวขึ้น การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น YoY ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน รวมถึง IEA ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2568 เป็น 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเดิมที่คาดไว้ที่ 990,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนที่แล้ว
- ตราสารหนี้: พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 2 ปีอยู่ที่ 4.249% 10 ปีอยู่ที่ 4.401%
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับเพิ่มขึ้นจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต PPI สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.4% MoM มากกว่าคาดการณ์ที่ 0.2% และ 3% YoY มากกว่าคาดการณ์ที่ 2.6%
- ติดตามการประชุมของเฟดวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ข้อมูลจาก CME FedWatch มองการลดอัตราดอกเบี้ย 25bps มีโอกาสถึง 95.3%
- USD/THB: THB อ่อนค่าลงเล็กน้อยโดยที่ USD/THB ปรับเพิ่มขึ้น +0.29% ปิดที่ระดับ 34.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ จาก dollar index ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.92% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาปิดที่ 106.95 ในส่วนนักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรที่ -5.91 พันลบ. และ -6.25 พันลบ. ตามลำดับ