บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
📈SET Index ลดลง 11.95 จุด (-0.83%) ปิดที่ระดับ 1,420 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 375 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 119 บริษัท) ดัชนีปรับลงจากแรงขายหุ้น Big Cap ที่มีปัจจัยลบเฉพาะตัว Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ ค้าปลีก (CPAXT, CPALL), กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BH), กลุ่มอาหารเครื่องดื่ม (SAPPE, MALEE), ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นช่วยพยุงดัชนี คือ กลุ่มพลังงาน (PTT), กลุ่มมีเดีย (VGI)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
🏪 CPAXT (-18.71%), CPALL (-5.60%) กังวลประเด็น CPAXT เข้าลงทุนใน Happitat Mixed Use กระทบผลกำไรในระยะสั้นจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นราว 300 ล้านบาทต่อปี (2-3% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้) เนื่องจาก Source of fund ในการเข้าลงทุนเป็นเงินกู้ทั้งหมด, ตลาดกังวลการแข่งขันที่รุนแรงในย่านบางนากดดันให้โครงการดังกล่าวถึงจุดคุ้มทุนช้ากว่าที่กำหนด (CPALL ถือ CPAXT 34.91%)
🩺 BDMS (-1.63%), BH (-1.30%) นักลงทุนลดพอร์ตต่อเนื่องประเมินกำไร 4Q24 ชะลอตัว หลังพ้น High season ใน 3Q24 มาแล้ว ประกอบยังมีความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มของกลุ่มลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะลูกค้าตะวันออกกลาง อาทิ คูเวตและ UAE
💻 KCE (-4.2%), HANA (-2.91%), DELTA (-0.33%) มีจิตวิทยาลบจาก US Bond yield เร่งตัวขึ้น บ่งชี้แนวโน้มดอกเบี้ยลงช้า, DELTA มีปัจจัยลบเฉพาะตัวกังวล GMT Tax15%กดดันกำไร, ขณะที่ KCE, HANA กังวลแนวโน้มกำไร 3Q24 ชะลอตัวต่อเนื่อง
🥤SAPPE (-8.78%), MALEE (-3.45%) นักวิเคราะห์ของเรา Comment ราคาหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มปรับลงเนื่องจากตลาดกังวลผลกระทบจากข่าวกรรมสรรพสามิตสั่งทบทวนราคาขายปลีกแนะนำเพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีสรรพสามิตซึ่งครอบคลุมในหลายกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มรถยนต์ และ เครื่องดื่ม
🚈 BTS (+3.39%) มองเป็นปัจจัยบวกเดิม รับข่าว ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม หนุนโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเดินหน้า มีโอกาสภาครัฐซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าคืนจากภาคเอกชน เป็นบวกโดยตรงต่อ BTS (สายสีเขียวเหลือสัญญาสัปทานไม่นานขายออกคุ้มกว่าหากเทียบกับ BEM, สายสีเหลือง, ชมพู ปัจจุบันขาดทุนหากขายออกจะช่วยลดขาดทุนให้กับ BTS) และมีกระแสเก็งกำไร Entertainment Complex