หลากหลายเรื่องราวเข้ามาให้กังวล / 1,405-1,425
SET แกว่งตัวอิงทางลง: แรงกดดันจากความเชื่อมั่นและการลดสถานะเสี่ยง รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความน่าสนใจ และความกังวลอุปสงค์ของจีน โดยหวังแรงพยุงจากการประชุมครม.และของขวัญปีใหม่จากภาครัฐในอนาคต
กลยุทธ์การลงทุน
- SET50/100: BANPU, CCET, COCOCO, COM7, PR9, SAWAD, TCAP
- รับเหมาก่อสร้าง: CK, STECON
- คาดกนง.คงดอกเบี้ย: KBANK, KTB, SCB
- หวังของขวัญปีใหม่: ADVICE, CPW, CRC
- Bitcoin: BTC, XPG, ZIGA
- กองทุน VAYU1+TESG: ADVANC, BEM, INTUCH, LHHOTEL, WHART
- แรงกดดันจากความเชื่อมั่นและการลดสถานะเสี่ยง: คาด SET Index ยังคงถูกกดดันจากการไหลออกของ Fund flow สอดรับกับนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิไปแล้ว 8 จาก 9 วันทำการในเดือนธ.ค.67 และภาพข้างต้นแนวโน้มดำเนินต่อไปในวันนี้ เนื่องจาก 1) ความเชื่อมั่นที่ต่อลดลงต่อ SET Index จากประเด็นเกี่ยวกับ ESG ของหลายบริษัทที่เกิดขึ้นในปีนี้ และ 2) การลดสถานะเสี่ยงก่อนการประชุมธนาคารกลางสำคัญ อีกทั้ง 2 สาหตุข้างต้นนี้มีแนวโน้มนำมาสู่การชะลอการลงทุน/ลดสถานะเสี่ยงของนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำด้วยเช่นกันนอกจากนี้ คาดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง SET Index จะถูกกดดันจากความน่าสนใจของสินทรัพย์ทางเลือก สอดรับกับราคา Bitcoin ที่ปรับตัวขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ $1.08 แสน หลังได้แรงหนุนจากการที่ Nasdaq ประกาศว่าจะนำหุ้นของ Microstrategy ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก จำนวนมากกว่า 4.2 แสนเหรียญ หรือ 2% ของปริมาณ Bitcoin ในตลาดเข้ารวมในการคำนวณดัชนี Nasdaq-100 โดยมีผลบังคับในวันที่ 23 ธ.ค.67
- อุปสงค์จีนบ่งชี้สัญญาณเชิงลบ: การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ย.67 วานนี้เป็นอีก Sentiment กดดัน หลังยอดค้าปลีกขยายตัวเพียง 3% y-y ชะลอลงจาก 4.8% y-y ในเดือนต.ค.67 เป็นการบ่งชี้ถึงอุปสงค์ภายในประเทศของจีนที่อ่อนแอลง ซึ่งอาจส่งผลให้ภาพที่สินค้าจีนเข้ามาแย่งตลาดสินค้าในไทยยังคงดำเนินต่อไป และจะเป็นแรงกดดันต่อผู้ประกอบการในประเทศของไทย
- หวังครม.และรัฐบาลนำมาซึ่งสิ่งดีๆ: อย่างไรก็ตาม มองทางลงจำกัด โดยหวังแรงพยุงจากการประชุมครม.ในวันนี้ หลังกระทรวงคมนาคมคาดว่าโครงการมอเตอร์เวย์ M5 ระยะทาง 22 กม. วงเงินลงทุน 3.1 หมื่นล้านบาท จะได้บรรจุเข้าเป็นวาระการประชุมครบในวันนี้ นอกจากนี้ SET Index ยังพอมีแรงพยุงจากความหวังต่อของขวัญปีใหม่ หลังรมช.คลังเผยรัฐบาลได้เตรียมมาตรการของขวัญปีใหม่สำหรับประชาชนไว้เรียบร้อยแล้ว และจะประกาศความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งมาตรการที่จะออกมานี้ จะเกี่ยวข้องกับการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในรูปแบบที่ต้องใช้อิเล็กทรอนิกส์
+ ปัจจัยเพิ่มเติม –
(+) EXIM BANK ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 68 มีแนวโน้มขยายตัวได้ 3% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุน และการบริโภค ควบคู่กับความต้องการจากต่างประเทศในภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี
(+) BOI เผยคอมเปค ซึ่งเป็นผู้ผลิต PCB อันดับ 5 ของโลกจากใต้หวันที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนจากบีโอโอเมื่อเดือนธ.ค.66 และได้ก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 112 ไร่ ด้วยเงินลงทุนในเฟสแรก 1 หมื่นล้านบาท จะเริ่มเดินเครื่องผลิตในไทยตั้งแต่เดือนธ.ค.67 เป็นต้นไป
(-) AIMC เผยสมาคมฯ เตรียมประชุมหารือสมาชิกในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือกรณี CPAXT ตั้ง AGP (ถือ 95%) เพื่อเข้าลงทุน HATF โดยจะพิจารณาหลักธรรมาภิบาล เนื่องจากการเข้าลงทุนดังกล่าวเข้าข่าย Related transaction หรือคารเข้าทำรายการของบริษัทจดทะเบียนกับบุคคลเกี่ยวโยงกัน
PICKS OF THE DAY
CK BUY
- เป้าหมาย 20.00 / 20.60 แนวรับ 19.30
- นำโครงการรัฐเข้า ครม. วันนี้: คมนาคม เตรียมนำโครงการ ส่วนต่อขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ (M5) สายรังสิต-บางปะอิน มูลค่า 3.1 หมื่นลบ. เข้า ครม. ในวันที่ 17 ธ.ค. 67 หากอนุมัติ คาดว่าจะคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ลงนามสัญญาภายในปี 68 ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต – มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ศูนย์รังสิต มูลค่า 6.5 พันลบ. คาดว่าจะนำเข้า ครม. ได้ภายใน ธ.ค. 67 ปัจจุบันเริ่มเห็นการนำโครงการรัฐฯเข้า ครม. ต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
- CK Backlog แน่น: ทางฝ่ายฯชอบ CK มี Backlog 2.2 แสนลบ. เพิ่มขึ้นกว่าเท่า ตัวจากต้นปี ส่วนปี 68 คาดรายได้ก่อสร้างยังสูงขึ้น y-y จากช่วงเริ่มงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม และจะเซ็นสัญญางาน Double deck เพิ่มในช่วงต้นปีหน้า
KTB BUY
- เป้าหมาย 22.00 / 22.60 แนวรับ 21.10
- ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ: KTB เป็นธนาคารที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล ทำให้มองว่าจะได้ประโยชน์ต่อโครงการต่าง ๆ ของรัฐมากที่สุด ทั้งด้านการเติบโตของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรม เนียม และการได้ลูกค้าใหม่ ๆ และข้อมูลของลูกค้าผ่านแอปต่าง ๆ ที่ใช้ในโครงการของรัฐบาล ซึ่งทาง KTB เป็นผู้ให้บริการ
- ได้ประโยชน์จากการคงดอกเบี้ยนโยบาย: คาดว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบที่จะถึง ซึ่งจะทำให้ KTB ได้ประโยชน์ในแง่อัตราผลตอบแทนสินเชื่อจะไม่ปรับลดลง ส่งผลดีต่อรายได้ดอกเบี้ย และผลประกอบการ