Daily Focus: จับตาแนวรับ SET โซน 1,420-1,410 จุด ลุ้นฟื้นตัวสลับ

2025 SET Target: 1600

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงถึง 11.95 จุด ปิดที่ 1,419.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายทรงตัวราว 4.1 หมื่นลบ. โดยถูกกดดันอย่างหนักจาก CPAXT และ CPALL ที่กระทบดัชนีราว 8 จุด โดยนักลงทุนตอบรับเชิงลบต่อดีลการเข้าลงทุนใน Happitat สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.4 พันลบ.และ 1.3 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Short Index Futures อีก 5.4 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways to Sideways Down และทดสอบโซนแนวรับ 1,410-1,420 จุด โดยภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน และยังคงรอติดตามปัจจัยสำคัญคือการประชุม FED รอบสุดท้ายของปีในคืนพรุ่งนี้ โดยเฉพาะมุมมองเศรษฐกิจและการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ขณะที่ปัจจัยกดดันอ่อนๆ ยังมาจาก Bond Yield สหรัฐฯ และ Dollar Index ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้กระแสเงินทุนในฝังเอเชียยังค่อนไปในทิศทางไหลออก ส่วนปัจจัยในประเทศพรุ่งนี้ กนง.จะมีการประชุมครั้งสุดท้ายเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยที่ 2.25% นอกจากนี้ต้องติดตามการประชุมครม.นัดที่เหลือของปีว่าจะมีการออกมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายและลดหย่อนภาษีออกมาหรือไม่ ส่วนประเด็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทจะประชุมอีกครั้งวันที่ 23 ธ.ค. หากผลออกมาชัดเจนจะเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่ม Domestic Play มากขึ้น โดยเฉพาะการบริโภค เช่น ค้าปลีก อาหาร ไฟแนนซ์ รวมถึงผลบวกจากมาตรการแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” ในปีหน้า ระยะสั้นเราคาดหวังแรงพยุงจาก VAYU1 รวมถึง SSF TESG ช่วงท้ายปีในช่วงจังหวะดัชนีย่อตัวลงใกล้ระดับ 1,400+- จุด ส่วนระยะกลาง-ยาวยังมองภาพเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในช่วงทยอยเร่งตัวใน 4Q24 จาก High Season ของการใช้จ่ายและการท่องเที่ยวรวมถึงปี 2025 ที่มองภาคการลงทุนทั้งรัฐและเอกชนจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์หลักหนุนการเติบโต จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีทยอยไต่ระดับขึ้นได้ในระยะถัดไป

กลยุทธ์ : เน้น Domestic Play ที่มีแนวโน้มกำไร 4Q24-2025 แข็งแกร่ง // ส่วนที่สะสมในช่วงก่อนหน้ายังถือลงทุนระยะกลาง-ยาว

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : AAV, BDMS, CPALL, MAGURO, RBF

FSSIA Portfolio: BA, CHG, CALL, KTB, MTC, NSL, RBF, SEAFCO, SHR, WHA

หุ้นเด่น Finansia 17 ธ.ค. 24 : NSL

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 43 บาท
  • โมเมนตัมกำไร 4Q24 คาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่อง เติบโตทั้ง q-q และ y-y ทำ New High หนุนจากทั้งปัจจัยฤดูกาล รวมถึงผลบวกจากสินค้าใหม่ๆที่ขายดี เช่น ช็อกโกแลตดูไบของ Bake a Wish ขณะที่บ.ลูกๆคาดทยอยขาดทุนลดลงต่อเนื่อง
  • เราคาดกำไรปี 2024-25 ที่ 523 ลบ. +57% y-y และ 591 ลบ. +13% y-y ตามลำดับ ราคาหุ้นที่พักตัวลงเกือบ 20% จาก High และทำให้ 2025PER ลดลงเหลือเพียง 15.3 เท่า เรามองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนอีกครั้ง 
  • แนวรับ 30-29.50 บาท แนวต้าน 32//33 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนในภูมิภาคผสมผสาน สุทธิแล้วไหลออก US$168 ล้าน เม็ดเงินไหลออกจากเกาหลีใต้ US$380 ล้าน แต่ไหลเข้าไต้หวัน US$305 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินไหลออกทุกประเทศ นำโดยอินโดนีเซียและไทยประเทศละราว US$37-39 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกจาก Bond Yield สหรัฐฯที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่องและตลาดยังรอติดตามการประชุม FED นัดสุดท้ายของปีสัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) SC มีมุมมองบวกต่อการเยี่ยมชมโครงการบ้านหรู Connoisseur Phatthanakan และคอนโด Reference Ekkamai ที่เปิดตัวใน 3Q24 และทำ Take-up rate สูง 65%-75% มากกว่าเป้า เป็นส่วนช่วยผลักดันให้ยอด Presales 4Q24 คาดโต q-q อีกทั้งมีโมเมนตัมบวกจากกำไร 4Q24 คาดเร่งขึ้น q-q เป็นระดับสูงสุดของปีจากการโอนคอนโดใหม่ 2 แห่งและรับรู้ Backlog แนวราบจาก 3Q24 ราว 3.8 พันลบ. รวมถึงคาดมีกำไรพิเศษ 30-50 ลบ. จากการเซ็นสัญญาโครงการ JV ใหม่ 3 แห่ง คงประมาณการกำไรปี 2024-19% Y-Y ก่อน +10% Y-Y ในปี 2025 คงราคาเป้าหมาย 3.20 บาท ราคาหุ้นมี Upside เปิดกว้างขึ้นและคาด Dividend Yield งวด 2H24 ที่ 5% ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

(0) SET ESG Rating ประจำปี 2024 ล่าสุด หากอ้างอิงเกณฑ์การลงทุนของ VAYU1 ที่หลักทรัพย์ใน SET100 ต้องมี SET ESG Rating ระดับ A ขึ้นไป และนอก SET100 ต้องระดับ AA ขึ้นไป เราคาดว่ามีหุ้นที่มีโอกาสถูกปรับเข้า-ออกจาก Universe การลงทุนใน SET ของ VAYU1 ดังนี้

  • หุ้นใน SET 100 ที่ถูก Upgrade SET ESG rating ขึ้นเป็น A ได้แก่ BTG KKP SAWAD TASCO SAPPE DELTA JMART KCE TLI TU (JTS ถูกปรับ ESG Rating ขึ้นเป็น A และมีโอกาสเข้า SET100 ในรอบ 1H25 ส่วน MBK RBF เสี่ยงหลุด SET100 รอบ 1H25 แม้ถูกปรับ ESG Rating ขึ้น) // หุ้นใน SET100 ที่ถูก Downgrade SET ESG rating ลงต่ำกว่า A ได้แก่ ERW IRPC
  • หุ้นนอก SET100 ที่ถูก Upgrade SET ESG rating ขึ้นเป็น AA ได้แก่ DITTO TEGH ADB ASW DMT HENG NRF NYT PSL QTC S SCG SHR SNP STECON SUTHA SYNEX TFG TGH III ILM PSH AKP MTI SSP SVOA TPAC TRUBB // หุ้นนอก SET100 ที่ถูก Downgrade SET ESG rating ลงต่ำกว่า AA ได้แก่ NVD RS

(0) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50/100 งวด 1H25 สำหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า BANPU SAWAD COM7 CCET หุ้นออก TIDLOR CENTEL BCP EA ส่วนด้าน SET100 คาดหุ้นเข้า CCET JTS TVO AURA หุ้นออก MBK SKY TIPH RBF โดยตลท.จะประกาศอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือน ธ.ค.

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 110.58 จุด หรือ -0.25%, ปิดที่ 43,717.48 จุด แต่ดัชนี S&P500 ยังคงปิดในแดนบวก และดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ รวมทั้งแถลงการณ์หลังการประชุมเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ โดยถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราและกลุ่มพลังงานหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่น่าผิดหวัง ขณะที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลง เนื่องจากมูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสลงอย่างไม่คาดคิด

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวกสลับลบ รอรับผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพุธนี้

(+) ค่าเงินบาทแข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.08 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ -0.13%

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากการที่จีนเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอลง และจากการที่นักลงทุนชะลอคำสั่งซื้อก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในขณะที่เช้านี้ลดลงอยู่ที่ระดับ 70.69 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ -0.03%

(-) ราคาทองคำตลาด COMEX ลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 2,670.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันพุธนี้ รวมทั้งการแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวลประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ในขณะที่เช้านี้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 2,671.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 0.06%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 864.19/ 0.03%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

17 ธ.ค.อังกฤษ: เงินเฟ้อ (พ.ย.)

สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (พ.ย.)

18 ธ.ค.ไทย: ประชุมกนง.

สหรัฐ: ประชุม FED

19 ธ.ค.อังกฤษ: ประชุม BoE

ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ

สหรัฐ: 3Q24 GDP growth (final)

20 ธ.ค.สหรัฐ:: Core PCE (พ.ย.)

ญี่ปุ่น: เงินเฟ้อ (พ.ย.)

อังกฤษ: ค้าปลีก (พ.ย.)

23 ธ.ค.สหรัฐ: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ย.)
- Advertisement -