เริ่มอ่อนกำลังทางลง / 1,360-1,380

SET คาดอ่อนกำลังทางลง : มองปัจจัยหนุนจากมาตรการภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อกำลังซื้อ Sentiment บวกจากตัวเลข PCE สหรัฐฯ และลุ้นปรากฏการณ์ Santa Rally/Window Dressing เข้ามาลดทอนกำลังทางลงของตลาด

กลยุทธ์การลงทุน

  1. ท่องเที่ยว/Spending : LHHOTEL, MINT, SPA, CRC, BJC, OSP, AU, SYNEX, COM7, KTC, AAV, BA
  2. Window Dressing/Santa Rally: AOT, AP, BCH, GPSC, LH, SAWAD, TTB
  3. Under Value : CENTEL, BCP, BANPU, BAY, BLA, RCL, TEGH, CBG, CPF
  • สารพัดปัจจัยหนุนแรงซื้อในประเทศ: คาดหุ้นในกลุ่มค้าปลีกจะปรับตัวขึ้นโดดเด่น รับ 1) ผลการประชุมค่าแรง โดยรมต.กระทรวงแรงงานเผยรายละเอียดว่า การประชุมบอร์ดไตรภาคีในวันนี้ จะได้ข้อสรุป โดยรายละเอียดเบื้องต้นเผยจะเป็นการปรับขึ้นค่าแรงในบางกลุ่มหรืออาชีพ เนื่องจากกังวลว่าอาจกระทบต้นทุนการดำเนินงานของ SMEs ในบางจังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำด้านรายได้สูงอาจพิจารณาปรับขึ้นเป็นรายอำเภอ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในเขตนั้นๆ 2) มาตรการ Easy e-Receipt โดยที่ประชุมครม. จะพิจารณาเห็นชอบในวันที่ 24 ธ.ค. 67 โดยคาดจะลดหย่อนภาษีได้ 5 หมื่นบาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยว และสินค้าทั่วไป จำนวน 3 หมื่นบาท และค่าใช้จ่ายสำหรับสินค้าและบริการของวิสาหกิจชุมชน (รวมถึงสินค้า OTOP)
    จำนวน 2 หมื่นบาท ซึ่งเงื่อนไขสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการคาดจะเป็นไปตามโครงการในครั้งก่อน มองทั้งสองปัจจัยจะช่วยหนุนกำลังซื้อภายในของประชาชน
  • Sentiment บวกจากเงินเฟ้อสหรัฐ : หลังตัวเลข Core PCE และ Headline PCE สหรัฐเดือน พ.ย.67 ออกมาขยายตัวแบบ y-y ที่ 2.8% และ 2.4% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.9% และ 2.5% ส่วนภาพ m-m ขยายตัว 0.1% ทั้งคู่ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาด และลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% และ 0.2% ตามลำดับ ตลาดหุ้นสหรัฐตอบรับเชิงบวก นักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด หลัง Dotplot ชี้เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียงสองครั้งในปี 68
  • ลุ้น Santa Rally และ Window Dressing ในตลาดหุ้นไทย : ทางฝ่ายวิเคราะห์สถิติช่วง 10 ปีย้อนหลัง พบว่ามีโอกาสกว่า 70% ที่จะเกิดปรากฏการณ์ Santa Rally และ กว่า 80% ที่จะมีการทำ Window Dressing ในช่วงปลายเดือน ธ.ค. ซึ่งหนุนดัชนี SET ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.96% และ 0.55% ตามลำดับ
  • ปัจจัยอื่นที่น่าติดตามในวันนี้ : GDP ของอังกฤษ และตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ เดือน ธ.ค.67

+ ปัจจัยเพิ่มเติม –

(-) อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยผลสำรวจความเสียหายพื้นที่เกษตรในภาคใต้ พบเสียหายกว่า 2 แสนไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวคาดกระทบต่อรายได้ประชาชนกว่า 9.4 หมื่นครัวเรือน

(+) รมช.คลัง คาดว่าจะเสนอกฎหมาย Entertainment Complex เข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม. ช่วงต้นปี 2568 หากมีการเห็นชอบจะส่งต่อให้กฤษฎีภาพิจารณาเป็นลำดับถัดไป คาดจะผลักดันจีดีพีไทยได้ราว 0.2% และจะมีผลผลักดันการบริโภคขยายตัวขึ้นอีก 0.7%

(+) กทท.เตรียมชูคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025” ในปี 2568 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ

(+) รองนายกเผยมีจำนวนผู้สูงวัยผ่านสิทธิ์ได้รับเงินหมื่นกว่า 3.2 ล้านคน น้อยกว่ากรอบที่เตรียมวงเงินไว้ที่ 4 ล้านคน และ เตรียมประกาศรายชื่อในเดือน ม.ค. 68

PICKS OF THE DAY

HMPRO BUY

  • เป้าหมาย 9.50 / 9.70 แนวรับ 9.00
  • ได้ประโยชน์จาก Easy E-receipt: คลังเตรียมเสนอโครงการ “Easy E-receipt ”เข้าที่ประชุม ครม. ในวันที่ 24 ธ.ค. 67 ให้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค คาดเริ่มใช้ ม.ค. 68 เร่งให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าใหม่ทดแทนของเก่าเพื่อที่จะได้ลดหย่อนภาษี ทางฝ่ายคาดว่า HMPRO ที่ขายสินค้า Durable Goods จะได้ประโยชน์ จากการกระตุ้นยอดขายใน 1Q68
  • 4Q67 SSSG มีแนวโน้มดีขึ้น: คาด SSSG–HomePro จะอยู่ในช่วงลบ low-single digit และSSSG–MegaHome อยู่ที่บวก mid-single digit คาดมี SSSG รวมอยู่ที่ -0.1% ทางฝ่ายประมาณการยอดขายใน 4Q67 จะอยู่ที่ 16,845 ลบ. +5.7% q -q, -0.2% y -y คาดโตขึ้น q -q จากปัจจัยบวก 2 เรื่อง ได้แก่ 1) เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ 2) ฤดูกา ลท่องเที่ยว ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงก่อนปีใหม่

KTC BUY

  • เป้าหมาย 48.50 / 49.50 แนวรับ 46.50
  • เข้าฤดูกาลจับจ่าย และจะได้ผลดีจาก Easy E-Receipt: ช่วงไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มีการจับจ่ายสูง คาดว่าจะทำให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC เพิ่มสูงขึ้น และจะได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-Receipt หนุนโมเมนตั้มต่อ เนื่องใน 1Q68
  • ผลงานดีกว่ากลุ่มชัดเจน: ทางด้านสินเชื่อบัตรเครดิตถึงแม้สินเชื่อจะหดตัว 0.2% y-y แต่ก็ดีกว่าอุตสาหกรรมที่หดตัว 3.2% y-y และทำให้ KTC มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.3% จาก 1.9% ในปีก่อน นอกจากนี้การเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตรของ KTC อยู่ที่ 10% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่ 2.6% มาก KTC ยังสามารถลดระดับ NPL ลงได้เหลือ 2.21% จากปีก่อนที่ 3.11% ในขณะที่อุตสาหกรรมมี NPL 3.58% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี NPL 3.45%
- Advertisement -