ลุ้นกลับเข้าใกล้ 1,400 / 1,380-1,400

SET ปรับตัวขึ้นต่อ: แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้น/ยกระดับค่าครองชีพ และลุ้นแรงหนุนจากนักลงทุนสถาบัน ทั้งปรากฏการณ์ Window dressing และกองทุน TESG หากแต่ทางขึ้นถูกลดทอนลงด้วย Sentiment กดดันจากภายนอก และหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว

กลยุทธ์การลงทุน

  1. Spending + ท่องเที่ยว: BA, CENTEL, COM7, CRC, HMPRO, KTC, MINT, OSP, SYNEX
  2. Window dressing + Santa rally: AOT, AP, BCH, CENTEL, GPSC, LH, SAWAD, TTB
  3. กองทุน TESG: ADVANC, AMATA, BBL, GULF, KBANK, KTB, IVL, PR9, TISCO, WHA, WHAUP
  4. Under value: RCL, ROJNA, TEGH
  • ครม.ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย: คาด SET Index โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มจับจ่ายใช้สอยและท่องเที่ยวจะได้แรงหนุนจากการประชุมครม.ในวันนี้ หลังกระทรวงการคลังเตรียมเสนอโครงการ Easy E-receipt วงเงิน 5 หมื่นบาท ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 15 ม.ค.-28 ก.พ. 68 โดยสามารถนำไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาปีภาษี 68 แบ่งเป็นการใช้จ่ายสินค้าทั่วไปและบริการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว (เช่น โรงแรม ร้านอาหาร) ไม่เกิน 3 หมื่นบาท และการใช้จ่ายร้านวิสาหกิจชุมชน SME และร้านค้า OTOP ลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 2-5 หมื่นบาท ด้านการประชุมบอร์ดไตรภาคีในการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำปี 68 วานนี้ ซึ่งมีมติปรับเพิ่ม 7-55 บาท/วัน หรือเฉลี่ย 2.9% แบ่งเป็น 17 อัตรา โดยสูงสุดและต่ำสุดอยู่ที่ 400 และ 337 บาท/วัน ตามลำดับ และจะเสนอมติต่อที่ประชุมครม.ในวันนี้ ทางฝ่ายมอง SET Index มีแนวโน้มตอบรับในทางบวกอย่างจำกัด เนื่องจากมิได้เป็นการปรับขึ้นสู่ 400บาท/วัน ทั่วประเทศ จึงอาจสร้างความผิดหวังให้นักลงทุนบางส่วน อีกทั้งค่าจ้างที่ปรับสูงขึ้นยังถือเป็นแรงกดดันทางด้านต้นทุนของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มพาณิชย์
  • หวัง Window dressing และกองทุน TESG: คาด SET Index ยังมีลุ้นปรับตัวขึ้นจากปรากฏการณ์ Window dressing โดยสถิติช่วง 10 ปีย้อนหลังพบโอกาสเกิด 80% อีกทั้ง ยังมีแนวโน้มได้แรงหนุนจากการชี้กองทุน TESG เพื่อลดหย่อนภาษีในช่วงปลายปี
  • แรงกดดันจากความเชื่อมั่น: มองทางขึ้นมีแนวโน้มถูกลดทอนลงจาก Sentiment เชิงลบภายนอก หลัง Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯเดือนธ.ค.67 ที่ 104.7 ต่ำกว่าตลาดคาด และเดือนพ.ย.67 ที่ 112.9 และ 112.8 ตามลำดับ ขณะที่ภายในประเทศติดตามประเด็นเฉพาะตัวของ CPAXT หลังแหล่งข่าวจากผู้บริหารกองทุนรายหนึ่งเผยกรณีที่ CPAXT เข้าลงทุนในโครงการ The Happitat ว่า ในวันนี้ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) จะมีการประชุมหารือกับตัวแทน CPAXT ถึงการลงทุนดังกล่าว และหากทาง CPAXT ยังยืนยันลงทุนต่อก็ต้องมาพิจารณาว่าอาจจะลดสัดส่วนการลงทุน หรือหยุดลงทุน

+ ปัจจัยเพิ่มเติม –

(+) รมว.ท่องเที่ยวและคีฬาเชื่อปี 67 นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินเป้า 35 ล้านคน และสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้ ราว 1.7 ล้านล้านบาท ส่วนนักท่องเที่ยวไทยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 197-198 ล้านคน/ครั้ง ซึ่งรอลุ้นว่าช่วงปลายปีอาจจะไปได้ถึง 200 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 9 แสนล้านบาท

(+) กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยการจดทะเบียนธุรกิจใหม่ 11M67 แตะ 8.3 หมื่นราย เพิ่มขึ้น 2.37% y-y เฉพาะเดือนพ.ย.67 จดทะเบียน 6,266 ราย เพิ่มขึ้น 4.9% y-y คาดตลอดปี 67 จัดตั้งธุรกิจใหม่ใกล้แตะเป้าหมาย 9 หมื่นราย

(-) โออาร์ซีเผยปี 68 เป็นปีที่มีปัจจัยเสี่ยงรอบทิศ โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์ 2.0 ของคุณทรัมป์ ซึ่งประเมินผลกระทบจากนโยบายการใช้ภาษีนำเข้าของคุณทรัมป์ จะส่งผลให้ GDP ของไทยปี 68 ขยายตัวลดลง 0.3-0.5%

(-) อังกฤษเผย GDP3Q67 ขยายตัว 0.9% y-y และ 0.0% q-q ซึ่งเป็นการปรับลดจากประมาณการในเบื้องต้นที่ขยายตัว 1% y-y และ 0.1% q-q

PICKS OF THE DAY

GPSC BUY
  • เป้าหมาย 40.50 / 42.00 แนวรับ 38.00
  • เดินหน้า Renew ในประเทศ: ล่าสุด บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตและขายไฟฟ้า ประเภทพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนผิวดิน กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 97.19 MW แบ่งเป็น 4 โครงการ ทั้งนี้ทางฝ่ายมองว่าจะเป็นเสริมการเติบโตของรายได้และกำไรให้แก่บริษัท โดยคาดจะทยอยเปิดดำเนินการ หรือ COD ในช่วงปี 69-71
  • ราคาสะท้อนปัจจัยลบแล้ว : จากประเด็นที่โครงการ CFP ของไทยออยล์ได้มีการเพิ่มเงินลงทุนและเลื่อนการเปิดดำเนินการออกไปเป็นปี 71 ซึ่งส่วนหนึ่งของโครงการได้แก่โรงไฟฟ้า ERU ที่ GPSC ลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตามบริษัทยืนยันว่าไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม มีเพียงการเปิดดำเนินการที่เลื่อนออกไปแต่ผลตอบแทนไม่ได้รับผลกระทบ ทางฝ่ายจึงมองว่าราคาหุ้นปรับตัวลงประมาณ 7% มากเกินไป เป็นจังหวะในการเข้าสะสมได้
CENTEL BUY
  • เป้าหมาย 35.00 / 36.50 แนวรับ 32.50
  • ลุ้นเคาะมาตรการ Easy e-Receipt 68 : กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการลดหย่อนภาษีผ่านโครงการ Easy E-Receipt 2568 ในที่ประชุม ครม. วันที่ 24 ธ.ค. 67 โดยตามเงื่อนไขสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท กระทรวงการคลังคาดระยะเวลาโครงการเริ่ม 15 ม.ค -28 ก.พ 68 ทางฝ่ายมอง Sentiment เชิงบวกต่อแนวโน้มการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น
  • คาดรายได้รวม 4Q67 สดใส : รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยสะสม สะสมวันที่ 1 ม.ค.-15 ธ.ค 67 รวม 33 ล้านคน ทางฝ่ายมองเป็น Sentiment เชิงบวก คาดรายได้ธุรกิจโรงแรมโต y-y สำหรับธุรกิจร้านอาหาร คาดรายได้โต y-y จากช่วงวันหยุดเฉลิมฉลองตามเทศกาล
- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน