MENA กางแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 68 ลุยเพิ่ม Utilization ดันมาร์เก็ตแชร์พุ่ง ปักหมุดรายได้โตเกิน 10% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจปี 68 เพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก fleet ที่มีอยู่ รองรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ขยายตัว พร้อมเพิ่มมาร์เก็ตแชร์รถมิกเซอร์ (Mixer) เน้นให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ฟากซีอีโอ “สุวรรณา ขจรวุฒิเดช”ตั้งเป้ารายได้โตเกิน 10%  สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง รับอานิสงส์ธุรกิจโลจิสติกส์ทุกประเภทขยายตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคยังเติบโต รวมถึงบริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM)   มีแผนขยาย Fleet รถจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (CJ)  หนุนอนาคตเติบโตอย่างมั่นคง

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีนาทรานสปอร์ต จำกัด (มหาชน) (MENA) ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่าทิศทางธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2568  คาดว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากธุรกิจโลจิสติกส์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการรถมิกเซอร์ที่มีโอกาสเติบโตสูงจากอุตสาหกรรมก่อสร้างฟื้นตัวขานรับการขยายตัวของการลงทุนของภาครัฐและเอกชน  ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 2568 ไว้ไม่ต่ำกว่า 10% สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถ (Utilization) จาก Fleet ที่มีอยู่

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Utilization ของรถ Mixer อยู่ที่ประมาณ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อไตรมาสต่อคัน (Q per Car) ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ เคยทำได้ถึง 920 Q per Car ต่อไตรมาส ดังนั้นหากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนยังมีทิศทางเพิ่มขึ้นก็จะสามารถเพิ่ม Q per Car ได้ ซึ่งก็จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2568 นอกเหนือจากการดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้แล้ว บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน  อีกทั้งยังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากร   และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานเพิ่มขึ้น   รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้รถขนส่งที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) โดยเฉพาะรถ Mixer

นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นไปที่การลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด เช่น รถ EV  ที่ปัจจุบันมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism : CBAM)  ที่เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้นโยบาย European Green Deal ที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งในสหภาพยุโรปและประเทศคู่ค้า  โดยบริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ดังนั้นการลงทุนใน EV จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับคู่ค้า

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า ทิศทางอุตสาหกรรมการก่อสร้างปี 2568 เชื่อว่าจะดีกว่าปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนของภาครัฐที่เริ่มส่งสัญญาณปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส ประกอบกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และภาคอุปโภคและบริโภคที่ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  ขณะที่บริษัท ทีดี เอ็ม ลอจิสติกส์ จำกัด (TDM)   ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ MENA มีแผนในการขยาย Fleet รถเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขยายสาขาของบริษัท ซี.เจ.เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด (CJ)  ดังนั้นธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าน่าจะสดใสไปในทิศทางเดียวกัน

- Advertisement -